คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6634-6635/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองกับพวกตกลงขายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 20,000 เม็ด ในราคา 500,000 บาท ให้แก่ร้อยตำรวจเอก จ. กับพวก ซึ่งร้อยตำรวจเอก จ. นำเงินจำนวน 500,000 บาท ไปให้จำเลยทั้งสองกับพวกตรวจนับและรอรับเมทแอมเฟตามีน แม้ต่อมาจำเลยทั้งสองกับพวกจะส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้ร้อยตำรวจเอก จ. กับพวกเพียงจำนวน 19,800 เม็ด ขาดไปจำนวน 200 เม็ด ซึ่งภายหลังได้ตรวจพบและยึดเมทแอมเฟตามีนจำนวน 200 เม็ด จากภายในรถยนต์ของพวกจำเลยทั้งสองก็ถือเป็นเพียงการส่งมอบสิ่งของบกพร่องขาดจำนวนไปเท่านั้น หาทำให้กลับกลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายตกลงซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกันเพียง 19,800 เม็ดแต่อย่างใดไม่ โดยยังคงต้องถือว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 20,000 เม็ด ให้แก่ร้อยตำรวจเอก จ. กับพวกไปทั้งหมดในคราวเดียวกัน ไม่มีเมทแอมเฟตามีนเหลืออยู่ที่จำเลยทั้งสองกับพวกอีก การกระทำของจำเลยทั้งสองกับพวกจึงเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนอันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองสำนวนขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม) (ที่ถูก มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง (เดิม)), 66 วรรคสอง (เดิม), 102 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ตามมาตรา 91 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 33 ปี 4 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทั้งสองกระทงแล้ว ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 50 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 เมื่อรวมโทษทั้งสองกระทงแล้ว ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า ร้อยตำรวจเอกจุมพลกับพวกจับกุมจำเลยที่ 1 ได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนจำนวน 20,000 เม็ด เป็นของกลาง ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย จับกุมจำเลยที่ 2 ได้ โดยกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย เมื่อส่งของกลางไปตรวจพิสูจน์แล้วปรากฏว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยของกลางรายการแรกจำนวน 19,800 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 361.013 กรัม ของกลางรายการที่ 2 จำนวน 200 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 2.733 กรัม มีปัญหาข้อกฎหมายที่สมควรวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองกับพวกเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน เห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองกับพวกในตอนแรกว่าร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 20,000 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งในทางพิจารณาของโจทก์ก็ได้ความว่า เมื่อจำเลยทั้งสองกับพวกได้เจรจากับดาบตำรวจไพศาลศิลป์และจ่าสิบตำรวจปัญญาแล้วจำเลยทั้งสองกับพวกก็ตกลงที่จะขายเมทแอมเฟตามีนให้จำนวน 20,000 เม็ด ในราคา 500,000 บาท หรือเม็ดละ 25 บาท ต่อมาร้อยตำรวจเอกจุมพลก็ได้เตรียมเงินที่ใช้ล่อซื้อจำนวน 500,000 บาท ไปให้จำเลยทั้งสองกับพวกตรวจนับและรอรับเมทแอมเฟตามีนต้องฟังว่าจำเลยทั้งสองกับพวกฝ่ายหนึ่งกับพยานโจทก์ทั้งสามอีกฝ่ายหนึ่งมีเจตนาหรือคำเสนอและคำสนองตรงกันที่จะจำหน่ายและรับซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน 20,000 เม็ด ในราคา 500,000 บาท แล้ว ต่อมาเมื่อมีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีน จำเลยทั้งสองกับพวกจะส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้เพียงจำนวน 19,800 เม็ด ขาดไป 200 เม็ด ต่อมาได้ตรวจพบและยึดได้เมทแอมเฟตามีนจำนวน 200 เม็ด จากภายในรถยนต์ของพวกจำเลยทั้งสองในภายหลังก็ตาม ก็ถือเป็นเพียงการส่งมอบสิ่งของบกพร่องขาดจำนวนไปเท่านั้น หาทำให้กลับกลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายตกลงซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกันเพียง 19,800 เม็ด ดังที่โจทก์บรรยายฟ้องในตอนหลังว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อแต่อย่างใดไม่ ยังคงต้องถือว่าจำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 20,000 เม็ด ให้แก่พยานโจทก์ผู้ล่อซื้อไปทั้งหมดสำเร็จแล้ว เมื่อเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยทั้งสองกับพวกมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับเมทแอมเฟตามีนที่ได้จำหน่ายไปเป็นจำนวนเดียวกัน จึงเท่ากับจำเลยทั้งสองกับพวกจำหน่ายหมดไปในคราวเดียวกันโดยไม่มีเมทแอมเฟตามีนเหลืออยู่ที่จำเลยทั้งสองกับพวกอีก การกระทำของจำเลยทั้งสองกับพวกจึงเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน อันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยทั้งสองจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลล่างทั้งสอง และมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษาให้เป็นผลดีแก่จำเลยทั้งสองได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองเป็นความผิดสองกรรมนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทซึ่งมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5

Share