คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือแจ้งคำสั่งของศาลโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาของผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ซึ่งเป็นอาคาร 32 ชั้นโดยผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้เช่าพื้นที่ของอาคารในชั้นที่ 19เป็นที่ทำการ ถ้าหากการส่งหนังสือดังกล่าวมีพนักงานของอาคารเป็นผู้ลงชื่อรับในใบตอบรับไว้ก่อนเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม2542 แล้วนำส่งให้แก่พนักงานของผู้รับมอบอำนาจเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2542 จริงก็ต้องถือว่าเจ้าหนี้ทราบคำสั่งของศาลในวันที่ 19 กรกฎาคม 2542 เพราะพนักงานของอาคารมิใช่บุคคลผู้อยู่หรือทำงานในสำนักทำการงานของผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ การที่เจ้าหนี้ยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2542ย่อมไม่พ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะต้องสั่งให้ไต่สวนให้ได้ความจริงเสียก่อน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2539 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2539เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว ทำความเห็นเสนอศาลว่าควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้

เจ้าหนี้อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์

เจ้าหนี้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าหนี้

เจ้าหนี้ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่าการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าหนี้ชอบหรือไม่ คดีนี้เจ้าหนี้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของเจ้าหนี้ โดยอ้างว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งคำสั่งของศาลที่สั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้โดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับไปยังอาคารเลขที่ 191/50-53 ถนนรัชดาภิเษก อาคารซีทีไอทาวเวอร์ ชั้น 19 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ภูมิลำเนาของผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคารขนาด32 ชั้น ผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้เช่าพื้นที่ของอาคารในชั้นที่ 19เป็นที่ตั้งของที่ทำการ ในการส่งหนังสือไปยังผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ ณ ภูมิลำเนาดังกล่าวนี้ มีเจ้าหน้าที่ของอาคารซีทีไอทาวเวอร์เป็นผู้รับหนังสือ อาคารนี้มีบริษัทต่าง ๆ เช่าอยู่ทั้ง 32 ชั้น เจ้าหน้าที่ของอาคารต้องจำแนกหนังสือที่มีถึงบริษัทต่าง ๆ เสร็จแล้วจึงนำส่งให้แต่ละบริษัทซึ่งไม่สามารถทำเสร็จภายในวันเดียว คดีนี้เจ้าหน้าที่ของอาคารลงชื่อรับในใบตอบรับวันที่ 14 กรกฎาคม 2542 แล้วนำส่งให้แก่พนักงานของผู้รับมอบอำนาจเจ้าหนี้ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม2542 จึงต้องถือว่าผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ทราบคำสั่งของศาลในวันที่พนักงานของผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ได้รับหนังสือจากเจ้าหน้าที่ของอาคาร เห็นว่า ตามหมายแจ้งคำสั่งศาลของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ฉบับลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2542 ซึ่งแนบท้ายอุทธรณ์คำสั่ง มีตราประทับของสำนักงานผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ระบุเลขที่รับ 8282 วันที่ 19 กรกฎาคม 2542 และในใบตอบรับในสำนวนคำขอรับชำระหนี้รายที่ 1 ลำดับที่ 35 ระบุชื่อผู้รับแทนว่า ศรายุทธหนึ่งคำมี เกี่ยวพันกับผู้รับโดยเป็นพนักงานได้รับไว้ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2542 หากนายศรายุทธ หนึ่งคำมี เป็นพนักงานของอาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ย่อมมิใช่บุคคลผู้อยู่หรือทำงานในสำนักทำการงานของผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ เมื่อนายศรายุทธหรือพนักงานของอาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ นำหนังสือแจ้งคำสั่งส่งมอบให้แก่พนักงานของผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ในวันที่ 19 กรกฎาคม2542 ดังที่ปรากฏตามตราประทับในเอกสารดังกล่าวข้างต้นจริงก็ต้องถือว่าเจ้าหนี้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม2542 เจ้าหนี้ยื่นอุทธรณ์วันที่ 19 สิงหาคม 2542 ย่อมไม่พ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ กรณีชอบที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะต้องส่งให้ไต่สวนให้ได้ความจริงเสียก่อน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ของเจ้าหนี้ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาเจ้าหนี้ฟังขึ้น”

พิพากษายกคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าหนี้ ฉบับลงวันที่ 7 ตุลาคม 2542แล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เพื่อมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share