แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นพี่ชายผู้ตายร่วมบิดามารดากัน เกิดทะเลาะโต้เถียงเรื่องนวดข้าว แล้วจำเลยเอาไม้คันฉายจะตีผู้ตาย ๆ แย่งไม้ได้ จำเลยผละวิ่งหนี แต่ล้มลงผู้ตายไล่ทัน จึงเอาไม้ตีเอา 2 ที มารดาเข้าห้ามฉุดเอาผู้ตายถอยห่างออกมาได้ 2 วา ผู้ตายก็สะบัดหลุดจากมารดา ถือไม้เงื้อตรงเข้าจะตีซ้ำเติมจำเลย ซึ่งขณะนั้นกำลังจะลุกขึ้น จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดติด ๆ กัน ถูกผู้ตายที่ชายโครงและไต้ตา ผู้ตายล้มลงขาดใจตายทันที ดังนี้ เป็ฯการกระ ทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่าคนตาย ขอให้ลงโทกษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙.
ศาลชั้นต้นเห็ฯว่า จำเลยกระทำการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙, ๕๓ จำคุก ๑ ปี และให้รอการลงอาญาไว้
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ, พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ได้ความว่าจำเลยเป็นพี่ชายผู้ตายร่วมบิดามารดาเดียวกัน ในคืนวันเกิดเกตุ มีการนวดข้าว กลางคืน ผู้ตายไม่ช่วยจำเลยนวด จำเลยจึงดุด่าว่ากล่าว แล้วเกิดโต้เถียงกัน จำเลยตรงเข้าไปจะเอาไม้ตีผู้ตาย ๆ แย่งไม้ คันฉายจำเลยได้ จำเลยผละวิ่งหนีไปสัก ๓ วาก็ล้มลง ผู้ตายไล่ทันเอาไม้ตีเอา ๒ ที มารดาเข้าห้ามฉุดเอาผู้ตายถอยออก มาได้ ๒ วา ผู้ตายก็สบัดหลุดจากมารดา ถือไม้เงื้อตรงเข้าไปจะตีซ้ำจำเลย ซึ่งขณะนั้นกำลังจะลุกขึ้น จำเลยใช้ปืนยิง ๒ นัด ติด ๆ กัน ถูกผู้ตายที่ชายโครงและใต้ตา ผู้ตายล้มลงขาดใจตายทันที ดังนี้ เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ถูกต้องแล้ว
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ บังคับคดียืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น./