คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6589/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยใช้มีดพร้าที่มีความยาวจากปลายมีดถึงด้าม 3 ฟุต ฟันผู้เสียหายบริเวณศีรษะด้านหลังซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายหนังศีรษะหลุดขาด บาดแผลกว้างถึง 5 เซนติเมตร ยาว 8 เซนติเมตร ลึกถึงกะโหลกศีรษะ แสดงว่าจำเลยฟันผู้เสียหายอย่างแรง เมื่อพิจารณาถึงมีดพร้าที่จำเลยใช้เป็นอาวุธฟันทำร้ายผู้เสียหาย โอกาสที่ฟันโดยเลือกฟันตรงอวัยวะสำคัญ และบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับดังกล่าวมารวมตลอดถึงมูลเหตุโกรธเคืองระหว่างจำเลยกับผู้เสียหายซึ่งทะเลาะวิวาทกันมาก่อนจะมาเกิดเหตุและพฤติการณ์ของจำเลยที่ฟันผู้เสียหายซ้ำอีกหลายครั้งแม้จะฟันถูกที่ขาอ่อนข้างขวาเพียงครั้งเดียวก็ตาม ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288และริบมีดพร้าของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบมาตรา 80 จำคุก 10 ปี คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างนับว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่คงจำคุกจำเลย 7 ปี 6 เดือน ริบมีดพร้าของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยและโจทก์จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุในฟ้องจำเลยใช้มีดพร้าด้ามไม้ยาวจากปลายมีดถึงด้าม 3 ฟุต เป็นอาวุธฟันทำร้ายนางละมัยนราอาจ ผู้เสียหายหลายครั้ง ถูกที่ศีรษะและขาอ่อนข้างขวาของผู้เสียหายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ พิจารณามีดพร้าด้ามไม้ของกลางที่มีความยาวจากปลายมีดถึงด้าม 3 ฟุตแล้ว นับว่าเป็นมีดพร้าขนาดใหญ่ อาจใช้เป็นอาวุธประทุษร้ายผู้อื่นถึงแก่ชีวิตได้ จำเลยใช้มีดพร้าของกลางฟันผู้เสียหายบริเวณศีรษะด้านหลังซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย หนังศีรษะหลุดขาดบาดแผลกว้างถึง5 เซนติเมตร ยาว 8 เซนติเมตร ลึกถึงกะโหลกศีรษะ แสดงว่าจำเลยฟันผู้เสียหายทางด้านหลังและฟันอย่างแรง สอดคล้องกับคำเบิกความของผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายไม่เห็นขณะถูกจำเลยฟันครั้งแรก เพียงรู้สึกแสบที่ศีรษะด้านหลังและล้มลงอันเป็นข้อสนับสนุนว่าจำเลยลอบฟันผู้เสียหายที่ศีรษะอย่างแรง ดังนี้เมื่อพิจารณาถึงมีดพร้าที่จำเลยใช้เป็นอาวุธฟันทำร้ายผู้เสียหาย โอกาสที่ฟันโดยเลือกฟันตรงอวัยวะสำคัญและบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับดังกล่าวมา รวมตลอดถึงมูลเหตุโกรธเคืองระหว่างจำเลยกับผู้เสียหายซึ่งทะเลาะวิวาทกันมาก่อนจะมาเกิดเหตุและพฤติการณ์ของจำเลยที่ฟันผู้เสียหายซ้ำอีกหลายครั้ง แม้จะฟันถูกที่ขาอ่อนข้างขวาเพียงครั้งเดียวก็ตาม เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นดังที่โจทก์ฟ้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ยังไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น…”

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share