คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+ที่มีพระราชบัญญัติกฎหมายบังคับกรณีแต่ฉบับเดียวนั้น การ+ปี พ.ศ.ผิดพลาดไม่ให้ฟ้องเสียไป +ที่ถือว่าฟ้องระบุในองค์ความผิดแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือวิชาช่างฯลฯ โดยชอบด้วยพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พ.ศ. ๒๔๗๔ จำเลยกับพวกบังอาจสมคบกันคัดลอกหนังสือของโจทก์ที่เป็นลายลักษณะอักษรกับภาพประกอบวิขานั้นๆ ของโจทก์แจกจ่ายให้แก่นักเรียน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม ๒๔๗๙ มาตรา ๒๐,๒๑,๒๕,๒๖ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าโจทก์อ้างกฎหมายที่ไม่มีตัวตนมาขอให้ลงโทษ แม้เวลานี้มีพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมฯ พ.ศ.๒๔๗๔ ใช้อยู่ แต่ฟ้องโจทก์ขาดความสาระสำคัญในการที่จะลงโทษจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์อ้างท้ายฟ้องผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ และโจทก์บรรยายฟ้องได้ความเป็นสาระสำคัญแล้ว จึงพิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาต่อไปและพิพากษาใหม่
จำเลยที่ ๑ – ๒-๓ ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ากฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ในวรรณกรรมในขณะนี้มีฉบับเดียว คือพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมฯ พ.ศ.๒๔๗๔ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าโจทก์มีลิขสิทธิ์ในตำรารายพิพาทตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง พ.ศ. ๒๔๗๔ และว่าจำเลยสมคบกันละเมิดสิทธิ์ในหนังสือเหล่านั้นของโจทก์เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มุ่งแสดงว่าจำเลยได้กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมฯ ๒๔๗๔ จึงอยู่ในท้ายฟ้องโจทก์อ้างพระราชบัญญัติปี พ.ศ.๒๔๗๙ แต่ก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่ามิได้มุ่งประสงค์อ้างพระราชบัญญัติปี ๒๔๗๙ หากแต่เขียนปี พ.ศ.ผิดไปเท่านั้น ในฟ้องจะไม่เขียนปี พ.ศ.ของกฎหมายนั้นมาก็ไม่มีอะไรห้ามและเมื่อไม่ต้องอ้างปีพ.ศ.ของกฎหมายก็ได้เช่นนี้ การอ้างปี พ.ศ.ผิดจึงไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไป คดีนี้มิใช่การอ้างกฎหมายที่ได้ถูกยกเลิกแล้ว แต่เป็นการอ้างปี พ.ศ.ผิดพลาดไปเท่านั้นจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share