แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดสำหรับผู้ไม่ได้รับอาชญาบัตรให้เป็นผู้ขายและได้ขายเครื่องชั่งเครื่องตวงเครื่องวัดผิดกฎหมายนั้นบัญญัติไว้แล้วในมาตรา 29ส่วนในมาตรา 30 หมายถึงความผิดสำหรับผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งได้รับอาชญาบัตรให้เป็นผู้ขายและได้ขายเครื่องชั่งเครื่องตวงเครื่องวัด ผิดกฎหมาย
ย่อยาว
คดีได้ความว่า จำเลยบังอาจสั่งเครื่องชั่ง 10 เครื่องเครื่องตวง 15 เครื่อง ซึ่งมีเครื่องหมายคำรับรองของสำนักงานกลางสาขาแล้ว แต่ไม่มีหนังสือสำคัญกำกับเครื่องชั่ง เครื่องตวงตามกฎหมาย เก็บไว้เพื่อขาย และจำเลยได้ขายเครื่องชั่ง 4 เครื่อง เครื่องตวง 2 เครื่องให้แก่ผู้มีชื่อไป โดยจำเลยมิได้รับอาชญบัตรจากเจ้าพนักงานให้กระทำการดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดพ.ศ. 2466 มาตรา 15, 29 ให้ปรับ 100 บาทลดฐานปรานีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 กึ่งหนึ่ง คงปรับ 50 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยมีผิดตามมาตรา 30 ด้วยอีกบทหนึ่ง
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ไม่ได้รับอาชญาบัตรให้เป็นผู้ขายและได้ขายเครื่องชั่ง ฯลฯ ผิดกฎหมายนั้น บัญญัติไว้แล้วในมาตรา 29 ส่วนในมาตรา 30 คำว่า “ผู้ได้รับอาชญาบัตร” นั้นเป็นคำประกอบของคำว่า “ผู้ใดผู้หนึ่ง” หรืออีกนัยหนึ่ง หมายถึง ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งเป็นผู้ได้รับอาชญาบัตร ซึ่งตรงกับคำแปลภาษาอังกฤษว่า “Whoever, being a licensed seller of weighing or MeasuringIn intruments, sells…”
จึงพิพากษายืน