คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6519/2550

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 95 กำหนดให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตรวจดูทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเท่านั้น มิได้บังคับให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องดำเนินการยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันให้แก่เจ้าหนี้มีประกันเสมอไป และการตรวจดูทรัพย์สินตามมาตรา 95 นั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะกระทำด้วยการสอบสวนหรือขอมติที่ประชุมเจ้าหนี้ก็ได้ การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านนำเรื่องของผู้ร้องเข้าที่ประชุมเจ้าหนี้จึงมีอำนาจกระทำได้ เมื่อที่ประชุมเจ้าหนี้ไม่ประสงค์จะดำเนินการกับทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน ทั้งไม่ปรากฏว่าทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเฉพาะส่วนของลูกหนี้มีราคามากกว่าจำนวนหนี้ การที่ผู้คัดค้านไม่ดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินซึ่งผู้ร้องรับจำนองไว้จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2545 และพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2545
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้มีประกันของลูกหนี้กับบุคคลอื่นตามสัญญาจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 192066 ผู้ร้องมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2546 ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้คัดค้านขอให้ยึดที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ผู้ร้องก่อนตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 95 แต่ผู้คัดค้านกลับนำคำร้องของผู้ร้องเข้าพิจารณาในที่ประชุมเจ้าหนี้ แล้วมีคำสั่งว่าที่ประชุมเจ้าหนี้ไม่ติดใจดำเนินการกับทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน และไม่ตัดสิทธิผู้ร้องดำเนินการตามกฎหมายอื่น คำสั่งของผู้คัดค้านไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้คัดค้านมีหน้าที่ทำการไต่สวนเหมือนเช่นกรณีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ แล้วทำความเห็นว่าควรได้รับชำระหนี้หรือไม่ และรายงานศาลให้มีคำสั่ง ขอศาลมีคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้จำนวน 3,497,916.29 บาท แก่ผู้ร้อง พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2546 จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ผู้คัดค้านยึดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่ผู้ร้องจนครบ
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้มีประกันไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในระยะเวลา 2 เดือน ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 และ 96 การที่ผู้คัดค้านนำคำร้องของผู้ร้องเข้าที่ประชุมเจ้าหนี้เนื่องจากเป็นกรณีเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตามมาตรา 31 และ 32 หากที่ประชุมเจ้าหนี้เห็นว่าไม่เป็นประโยชน์แก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้ ก็มีมติให้ผู้คัดค้านงดดำเนินการได้ ทั้งมาตรา 95 มิได้บัญญัติให้ผู้คัดค้านต้องดำเนินการยึดและขายทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันให้ตามคำร้องของผู้ร้อง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้าน ให้ผู้คัดค้านสอบสวนคำร้องของผู้ร้อง และยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่ผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้มีประกันโดยเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 192066 ตำบลบางประดู่ อำเภอเมืองนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี ของลูกหนี้ ผู้ร้องมิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2546 ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้คัดค้านในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 95 โดยขอให้ผู้คัดค้านยึดทรัพย์จำนองดังกล่าวออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่ผู้ร้อง แต่ผู้คัดค้านกลับนำคำร้องของผู้ร้องเข้าพิจารณาในที่ประชุมเจ้าหนี้ และปรากฏว่าไม่มีเจ้าหนี้รายใดมาร่วมประชุมซึ่งถือว่าเจ้าหนี้ไม่ติดใจดำเนินการกับทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันตามประกาศผู้คัดค้านเอกสารหมาย ค.1 ผู้คัดค้านจึงมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า คำสั่งของผู้คัดค้านที่ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินซึ่งผู้ร้องรับจำนองไว้ชอบหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 95 กำหนดให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตรวจดูทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเท่านั้น มิได้บังคับให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องดำเนินการยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันให้แก่เจ้าหนี้มีประกันเสมอไป การตรวจดูทรัพย์สินตามมาตรา 95 นั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะกระทำด้วยการสอบสวนหรือขอมติที่ประชุมเจ้าหนี้ก็ได้ ถ้าปรากฏว่าทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันมีราคามากกว่าจำนวนหนี้ ราคาส่วนที่เหลือเกินจำนวนหนี้ย่อมเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ ซึ่งเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะรวบรวมจัดการตาม มาตรา 22 และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจขายตามวิธีที่สะดวกและเป็นผลดีที่สุดตามมาตรา 123 กรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีหน้าที่ต้องดำเนินการยึดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันออกขายตามคำร้องของเจ้าหนี้ จะสั่งงดดำเนินการและให้เจ้าหนี้ไปดำเนินการตามกฎหมายอื่นไม่ได้ การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านนำเรื่องของผู้ร้องเข้าที่ประชุมเจ้าหนี้จึงมีอำนาจกระทำได้ เมื่อที่ประชุมเจ้าหนี้ไม่ประสงค์จะดำเนินการกับทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน ทั้งไม่ปรากฏว่าทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเฉพาะส่วนของลูกหนี้มีราคามากกว่าจำนวนหนี้ การที่ผู้คัดค้านไม่ดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินซึ่งผู้ร้องรับจำนองไว้จึงชอบแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share