คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6518/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเครื่องกระสุนปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) และเป็นชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเองให้สามารถยิงซ้ำได้ ขนาดความยาวลำกล้องเกิน 160 มม. อันเป็นเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครอง อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวแม้จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่ถึง 20 มม. อันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่สามารถใช้กับอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ข้อ 2 (2) (ก) ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์บรรยายไว้ในคำฟ้องด้วยว่า เครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนซึ่งใช้กับอาวุธปืนชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเองให้สามารถยิงซ้ำได้ ขนาดความยาวลำกล้องเกิน 160 มม. จึงเป็นเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกระสุนปืนชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิงหรือไม่ โดยไม่จำต้องบรรยายว่าเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิงอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 6, 55, 78 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 ริบกระสุนปืนของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และริบกระสุนปืนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ให้ริบกระสุนปืนของกลาง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเครื่องกระสุนปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) 35 นัด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) และเป็นชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเองให้สามารถยิงซ้ำได้ ขนาดความยาวลำกล้องเกิน 160 มม. อันเป็นเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวแม้จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่ถึง 20 มม. อันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่สามารถใช้กับอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ข้อ 2 (2) (ก) ก็ตาม แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องด้วยว่า เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) ซึ่งเป็นชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเองให้สามารถยิงซ้ำได้ ขนาดความยาวลำกล้องเกิน 160 มม. ซึ่งตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) กำหนดว่าอาวุธปืนตามข้อ 2 (3) (ก) ที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ต้องมีขนาดความยาวลำกล้องไม่ถึง 160 มม. เมื่อเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองตามฟ้องเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเองให้สามารถยิงซ้ำได้ ขนาดความยาวลำกล้องเกิน 160 มม. จึงเป็นเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกระสุนปืนชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิงหรือไม่ โดยโจทก์ไม่จำต้องบรรยายว่าเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิงซึ่งเป็นข้อยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ข้อ 3 จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share