แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำของผู้รับการให้โดยเสน่หาที่ว่า “ไม่ให้อยากได้ไปฟ้องเอา” นั้น หาใช่เป็นคำหมิ่นประมาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ยกที่ดิน ๙ ไร่ให้จำเลยโดยเสน่หา จำเลยบังอาจกล่าวคำหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงและไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ จึงขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดินคืนแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยได้รับที่ดินจากโจทก์โดยมีค่าภารติดพัน จำเลยไม่ได้หมิ่นประมาทโจทก์ โจทก์มิได้ยากจนกับตัดฟ้องว่าคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นฟังว่า ข้อฟ้องที่ว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์นั้นขาดอายุความแล้ว ข้อเลี้ยงดูก็ไม่มีพยานสนับสนุนให้พอฟังได้ พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เมื่อเดือนยี่ พ.ศ.๒๔๙๙ ยังไม่ขาดอายุความนั้น แม้จะถือว่ายังไม่ขาดอายุความจริง แต่คำพูดที่ว่า “ไม่ให้อยากได้ไปฟ้องเอา” เท่านี้ หาเป็นคำหมิ่นประมาทไม่ ส่วนข้อเลี้ยงดูนั้นเห็นว่าโจทก์ไม่ใช่เป็นคนยากไร้ จำเลยเองน่าเห็นใจว่าจะไม่สามารถเจีดให้โจทก์ยิ่งกว่า พิพากษายืน