คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอกนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิของเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่และผู้ซื้อที่ดินแปลงใหญ่นั้นย่อมได้ที่งอกริมตลิ่งนั้นด้วย เว้นแต่จะมีข้อกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นโดยแจ้งชัด ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง +-94 การนำสืบตีความหมายเจตนาของคู่กรณีในสัญญาซื้อขายนั้นมิเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย

ย่อยาว

คดได้ความว่าเดิมโจทก์ซื้อฝากที่ดินของจำเลยแห่งหนึ่งรวมทั้งตึกเรือนโรงเและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้นด้วย ที่ดินรายนี้มีด้าน ๆ หนึ่งติดลำน้ำปิง แต่โฉนดสำหรับที่รายนี้หาได้คลุมครอบตลอดที่ดินทั้งแปลงไม่ ปรากฎว่าที่ดินตอนที่อยู่นอกโฉนดนั้นเป็นที่งอกริมตลิ่งและตัวตึกที่สร้างบนที่ดินรายนี้ส่วนหนึ่งอยู่ภายในเขตต์โฉนดส่วนหนึ่งอยู่บนที่งอก ต่อมาจำเลยได้ประกาศจะจำนองที่งอกนอกโฉนดนั้นและจำเลยได้เข้ามาอยู่ ในเรื่อนหลังหนึ่งซึ่งได้ขายฝากให้โจทก์แล้ว โจทก์จึงฟ้องขอให้ห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องขัดขวางในที่ดินรายที่ขายฝากและขอให้ขับไล่จำเลย
ศาลชั้นต้นตัดสินว่าตามสัญญา ขายฝากเห็นได้ว่าที่ดินที่อยู่นอกโฉนดนั้นมิได้เป็นวัตถุแห่งการขายฝากนั้นเลย เพราะสัญญาขายฝากกำหนดซื้อขายกันแต่ฉะเพาะที่ ๆ ปรากฎในโฉนดเท่านั้น จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อนี้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่ดินรายนี้เป็นที่งอกแม้อยู่นอกโฉนดก็ต้องถือว่าเป็นที่ของแปลงนั้น ใครเป็นเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าของที่งอกด้วยและฟังว่าโจทก์จำเลยมีเจตนาจะซื้อขายกันตลอดทั้งที่ดินจึงแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้โจทก์ชนะคดีเต็มตามฟ้อง
ศาลฎีกาตัดสินว่าการขายฝากที่ดินรายนี้เป็นการขายฝากที่ดินตามโฉนด แม้ที่ดินรายพิพาทจะอยู่นอกโฉนดก็ตาม แต่ตามแผนที่หลังโฉนดมีว่าที่ดินติดแม่น้ำปิง ถ้าถือเคร่งครัดตามสัญญาผู้ขายก็ต้องส่งมอบที่ดินให้ติดลำแม่น้ำปิงจะมีที่ดินอื่นบังหน้าก็ผิดสัญญา อนึ่งตามมาตรา ๑๓๐๘ แห่ง ประมวลแพ่ง ฯ ที่งอกริมตลิ่งย่อมตกเป็นกรรมสิทธิของเจ้าของที่ดิน แลตามรูปเรื่องย่อมเห็นว่าโจทก์จำเลยมุ่งประสงค์จะซื้อขายฝากที่ดินและตึกโรงเรือนกันทั้งหมด และข้อที่โจทก์นำสัญญาเช่าซึ่งจำเลยทำให้ไว้แก่โจทก์เมื่อขายฝากที่ดินนี้แล้วมาแสดงต่อศาลก็เพื่อให้เห็นเจตนาของจำเลยเป็นการสืบตีความหมายเจตนาในการซื้อขาย จึงเป็นการชอบ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share