คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายได้ทำสัญญาจะขายนาให้โจทก์แต่ได้ตายเสียในระหว่างประกาศขาย ทายาทบางคนได้โอนขายนาพิพาทให้โจทก์ไปโดยถือตามใบมอบอำนาจเดิม ต่อมาโจทก์ถูกทายาทคนอื่นฟ้องทำลายการโอนดังนี้ แม้ศาลจะพิพากษาให้ทำลายการโอนและให้คืนเงินราคานาให้โจทก์โดยอ้างเหตุว่า ใบมอบอำนาจสิ้นอายุ โจทก์ก็ยังฟ้องบังคับทายาทของผู้ตายให้โอนนาพิพาทให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายเดิมได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

ความว่า ด. บิดาจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาพิพาทให้โจทก์ราคา 3,500 บาท โจทก์ได้ชำระเงินเสร็จแล้ว ระหว่างประกาศขาย ด. ตาย จำเลยทั้ง 4 เป็นผู้รับมรดก จำเลยที่ 4 เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก ด. คงถือใบมอบอำนาจเดิมโอนขายนาพิพาทให้โจทก์ จำเลยที่ 1 ได้ฟ้องทำลายการโอนโดยอ้างว่าใบมอบอำนาจสิ้นอายุ ศาลพิพากษาให้ทำลายและให้จำเลยที่ 1 ใช้เงิน 3,500 บาทให้โจทก์ ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้นำมาชำระต่อศาลแล้วแต่โจทก์ยังไม่ได้รับไป โจทก์มาฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาจะซื้อขาย

ศาลจังหวัดตรังและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกัน ให้จำเลยโอนนาให้โจทก์ หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกา ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา ศาลฎีกาสั่งให้รับฎีกาในข้อกฎหมายที่ว่านาพิพาทรายนี้ ศาลได้พิพากษาเสร็จไปครั้งหนึ่งแล้ว ให้ทำลายการโอนซื้อขายและให้คืนเงิน จำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องบังคับให้จำเลยโอนอีกได้หรือไม่ ซึ่งจำเลยยกขึ้นต่อสู้ไว้ชั้นให้การ

ศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาในคดีก่อนเป็นแต่ให้ทำลายการโอนซื้อขาย เพราะเหตุใบมอบอำนาจสิ้นอายุโดย ด. ตายเสียก่อนโอนเท่านั้น หามีผลกระทบกระทั่งไปถึงสัญญาจะซื้อขายระหว่าง ด. กับโจทก์ด้วยไม่ จำเลยเป็นทายาทผู้รับมรดกของ ด. จึงต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น

พิพากษายืน

Share