คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยได้สั่งซื้อสินค้าโจทก์รวมเป็นเงินเท่าใด จำเลยได้รับสินค้าแล้วไม่ชำระ โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระแล้ว ก็เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จำเลยจะเข้าใจและสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว ส่วนวิธีการสั่งซื้อสินค้า การรับส่งสินค้า การชำระเงินค่าสินค้า และการทวงถามนั้นเป็นเพียงรายละเอียดที่นำสืบในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม มูลหนี้เดิมขาดอายุความ แต่ต่อมาจำเลยได้ทำหนังสือรับว่าเป็นหนี้โจทก์และจะชำระหนี้ให้นั้นเป็นหนังสือรับสภาพความรับผิดโดยสัญญาถือได้ว่าจำเลยละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความ จำเลยจะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์อีกหาได้ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดตามกฎหมายของเมืองฮ่องกง เมื่อวันที่ 4 และ 12 กันยายน 2523วันที่ 31 ธันวาคม 2523 และวันที่ 20 พฤษภาคม 2524 จำเลยสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องเขียน อุปกรณ์การเขียน และเครื่องสำอางจากโจทก์หลายชนิดและหลายรายการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 221,441.56(ที่ถูก 221,341.66) ฟรังก์ฝรั่งเศส จำเลยได้รับสินค้าจำนวนดังกล่าวแล้ว จำเลยชำระค่าสินค้าแจ่โจทก์รวมเป็นเงิน 65,661.30ปรังก์ฝรั่งเศส จำเลยคงค้างชำระค่าสินค้าโจทก์อีก 155,680.35(ที่ถูก 155,680.36) ฟรัก์ฝรั่งเศส ต่อมา โจทก์จำเลยได้เจรจากันและตกลงกันว่า จำเลยชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นจำนวนร้อยละ 30 ของหนี้ที่ค้างชำระภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2526 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ70 จะชำระให้เสร็จภายในเดือนมีนาคม 2526 เมื่อถึงกำหนดตามข้อตกลงดังกล่าวจำเลยไม่ชำระ โจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายความทวงถามจำเลยให้ชำระหนี้ จำเลยเพิกเฉย โจทก์ได้รับความเสียหายขอคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 155,680.35ฟรังก์ฝรั่งเศส หรือ 647,630.25 นับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2524ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 85,001 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 732,631.25 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 647,630.25 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ณ เมืองฮ่องกง นายไมเคิล โกแมนส์ และนายโจเซฟ ลอว์ไม่ได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนโจทก์ หนังสือมอบอำนาจและหนังสือรับรองของโนตารีปับลิกฮ่องกงเอกสารท้ายฟ้องเป็นหนังสือปลอม นายประกอบ กรีอักษร จึงไม่มีอำนาจฟ้องแทนโจทก์ จำเลยไม่เคยสั่งซื้อสินค้าและรับสินค้าตามฟ้องจากโจทก์ และไม่เคยชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้อง โจทก์ไม่เคยทวงถามจำเลยให้ชำระหนี้ จำเลยไม่เคยขอผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ไม่เคยได้รับหนังสือแจ้งข้อตกลงและเงื่อนไขในการผ่อนชำระหนี้ของโจทก์ ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2525บันทึกท้ายหนังสือดังกล่าวจำเลยไม่ได้ทำขึ้น ลายมือชื่อท้ายบันทึกเป็นลายมือชื่อปลอม และตราประทับก็เป็นตราปลอม หนังสือดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอม และไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลย ทั้งฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน513,745.15 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 1 มีนาคม 2526 จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า โจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อใด มีใครเป็นกรรมการบ้าง กรรมการท่านใดมีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำการแทนบริษัทโจทก์ได้ ทั้งไม่ได้บรรยายว่า จำเลยสั่งศื้อสินค้าโจทก์โดยวิธีใด โจทก์ส่งสินค้าให้จำเลยวิธีใดแต่ละครั้งมีสินค้าอะไรบ้าง ราคาเท่าใด จำเลยรับสินค้าเมื่อใดเหตุใดจึงต้องชำระเงินค่าสินค้าเป็นเงินฟรังก์ฝรั่งเศส การรับซื้อและชำระเงินมีอัตราแลกเปลี่ยนเท่าใด เพราะการทวงถามไม่บรรยายให้ละเอียดว่าทวงถามกี่ครั้ง เมื่อใดบ้างนั้น เห็นว่าคำฟ้องนั้นเพียงแต่โจทก์บรรยายให้จำเลยทราบว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล จำเลยได้สั่งซื้อสินค้าโจทก์รวมเป็นเงินเท่าใด จำเลยได้รับสินค้าแล้วไม่ชำระ โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชำระแล้วก็เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดถึงซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จำเลยจะเข้าใจและสามารถตต่อสู้คดีได้แล้วหาจำต้องบรรยายฟ้องตามที่จำเลยฎีกามาดังกล่าวไม่เพราะเป็นรายละเอียดที่นำสืบในชั้นพิจารณาได้ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุมฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.1 เป็นสำเนาภาพถ่าย และหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2นายไมเคิล โกแมนส์ และนายโจเซฟ ลอว์-ลงลายมือชื่อโดยไม่มีอำนาจหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 ไม่สมบูรณ์ นั้น โจทก์มีนายประกอบกรีอักษร เบิกความยืนยันว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดจดทะเบียนที่สำนักงานทะเบียนของเมืองฮ่องกง แล้วส่งสำเนาหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.1 พร้อมคำแปลเป็นพยานหลักฐานประกอบ และโจทก์มองอำนาจให้พยานฟ้องคดีแทนตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 เห็นว่าสำเนาหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.1 มีโนตารีปับลิกแห่งเมืองฮ่องกงลงลายมือชื่อรับรองว่าโจทก์เป็นบริษัทจำกัด จดทะเบียนที่เมืองฮ่องกงและกงสุลไทยประจำเมืองฮ่องกงลงลายมือชื่อรับรองว่าผู้ออกหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.1 เป็นโนตารีปับลิกแห่งเมืองฮ่องกง จำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช้เอกสารที่แท้จริงและมิได้เถียงว่าคำแปลไม่ถูกต้อง และจำเลยเองยังส่งหนังสือรับรองว่าเอกสารที่แนบมากับหนังสือรับรองเป็นของบริษัทโจทก์ ปรากฏตามหนังสือรับรองเอกสารหมาย ล.9 จึงเป็นการเพียงพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ณ เมืองฮ่องกงสำหรับหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ปรากฏว่านายไมเคิล โกแมนส์ และนายโจเซฟ ลอว์เป็นผู้ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและประทับตราสำคัญ จำเลยไม่ได้นำสืบเถียงว่านายไมเคิล โกแมนส์ ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทโจทก์คงเถียงว่านายโจเซฟ ลอว์ ไม่ได้เป็นเลขานุการบริษัทโจทก์ขณะลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ จึงต้องฟังว่านายไมเคิล โกแมนส์เป็นกรรมการบริษัทโจทก์ และตามข้อบังคับของบริษัทโจทก์ข้อที่ 92ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.9 ระบุว่า กรรมการคนหนึ่งหรือเลขานุการหรือบุคคลอื่นที่ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งโดยกรรมการอย่างน้อย2 คน จะทำหน้าที่ลงลายมือชื่อในเอกสารทุกฉบับที่จะมีการประทับตราดังนี้ นายไมเคิล โกแมนส์ เพียงคนเดียวลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจ และประทับตราของบริษัทโจทก์ ก็มีผลทำให้หนังสือมอบอำนาจของโจทก์สมบูรณ์แล้ว เพราะนายไมเคิล โกแมนส์ เป็นกรรมการบริษัทโจทก์จึงมีอำนาจลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจได้ตามข้อบังคับของบริษัทโจทก์ ข้อที่ 92 ไม่จำต้องให้กรรมการบริษัทโจทก์แต่งตั้งอีกตามที่จำเลยอ้างโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ได้สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ และไม่ได้ทำหนังสือรรับสภาพหนี้นั้น โจทก์มีนางมิเรียม ไทร์ เบิกความยืนยันว่าจำเลยได้สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และยังค้างชำระหนี้จำนวน155,680.35 ฟรังก์ฝรั่งเศส โจทก์ได้กำหนดเงื่อนไขในการชำระหนี้ดังกล่าวส่งไปยังจำเลยปรากฏตามเอกสารหมาย จ.12 จำเลยก็เพิกเฉยไม่ชำระ โจทก์จึงให้พยาน นายตัน กีพาร์ด และนายแดนนี โฮ ไปพบนายนัยเกียรติ กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลย นายนัยเกียรติตกลงว่าจำเลยจะชำระเงินให้โจทก์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2526 จำนวนร้อยละ30 และที่เหลือชำระภายในเดือนมีนาคม 2526 พยานได้บันทึกข้อตกลงดังกล่าวไว้ท้ายหนังสือกำหนดเงื่อนไขในการชำระหนี้ตามเอกสารหมาย จ.12 นายนัยเกียรติได้ลงลายมือชื่อ และประทับตราบริษัทจำเลยเห็นว่าโจทก์มีใบกำกับสินค้าเลขที่พีอาร์โอ 1159 เจพีเอ พีอาร์โอ1160 แอลเอเอ็น พีอาร์โอ 1161 พีอาร์เอ พีอาร์โอ 1162 เอสจีพีรวมเป็นเงิน 34,283.39 ฟรังก์ฝรั่งเศส ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.6และจำเลยได้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตส่งเงินไปชำระค่าสินค้าดังกล่าวจำนวน 19,887.89 ฟรังก์ฝรั่งเศส ปรากฏตามตั๋วแลกเงินเอกสารหมาย จ.8 แผ่นที่ 16 พร้อมคำแปล นอกจากนี้ยังมีหลักฐานใบแจ้งหนี้ที่จำเลยค้างชำระปรากฏตามเอกสารหมาย จ.9 พร้อมคำแปลและหนังสือที่โจทก์แจ้งเงื่อนไขในการชำระหนี้ และบัยทึกการชำระหนี้ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.12 นายนัยเกียรติ กรรมการการผู้จัดการจำเลยก็ยอมรับว่านางมิเรียม ไทร์ กับพวกได้นำหนังสือดังกล่าวมามอบให้นายนัยเกียรติอ่าน และนางมิเรียม ไทร์ เขียนบันทึกต่อท้ายหนังสือดังกล่าวให้นายนัยเกียรติเซ็นชื่อ และประทับตราบริษัท แม้นายนัยเกียรติจะเบิกความว่าเซ็นชื่อไปเป็นการรับทราบการเจราจาข้ออ้างของนายนัยเกียรติก็ฟังไม่ขึ้น เพราะบันทึกดังกล่าวมีข้อความชัดว่า จำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ พยานโจทก์จึงมีน้ำหนักมากกว่าพยานหลักฐานจำเลย ฟังได้ว่าจำเลยได้สั่งซื้อสินค้าตามฟ้องและเป็นหนี้โจทก์จำนวน 155,680.35 ฟรังก์ฝรั่งเศส ฎีกาจำเลยข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้น
ในปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความนั้นได้ความว่าจำเลยเป็นหนี้ค่าสินค้าโจทก์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 และจำเลยได้ทำหนังสือรับว่าเป็นหนี้โจทก์ และจะชำระหนี้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2526 ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.12 เห็นว่าโจทก์ซึ่งเป็นพ่อค้าฟ้องเรียกเอาค่าสินค้าที่ส่งมอบแก่จำเลย โจทก์จะต้องฟ้องภายในอายุความ 2 ปี เมื่อฟังว่าจำเลยทำเอกสารหมาย จ. 12 ไว้ต่อโจทก์รับว่าเป็นหนี้โจทก์จริง จึงเป็นเรื่องคู่กรณีทำหนังสือรับสภาพความรับผิดโดยสัญญาในหนี้ดังกล่าวแม้จะฟังว่าในขณะทำหนังสือดังกล่าว หนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ขาดอายุความแล้วก็ถือว่าจำเลยละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความจำเลยจะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์อีกหาได้ไม่ จำเลยจะต้องรับผิดชำระหนี้ค่าสินค้าให้แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน.

Share