แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่จำเลยมีเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบมือถือไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวมาปรับคลื่นความถี่ให้ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้อื่นและใช้ส่งสัญญาณเสียงไปยังบุคคลภายนอก ก่อให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อนต่อผู้อื่นโดยไม่เป็นธรรม แม้จะฟังได้ว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นต้องอุปการะครอบครัวก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ. 2498 มาตรา 4, 6, 22, 23 และ 26 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบของกลางทั้งหมดเพื่อใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข ยกเว้นโต๊ะและเก้าอี้ของกลางให้คืนเจ้าของและนับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2929/2541 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ. 2498 มาตรา 22, 23 และ 26 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานมีโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 6 เดือน ฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเป็นการรบกวนต่อการวิทยุคมนาคมจำคุก 6 เดือน รวม 12 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ริบของกลางทั้งหมดเพื่อใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข ส่วนโต๊ะและเก้าอี้ของกลางให้คืนเจ้าของ นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2929/2542 (ที่ถูก 2929/2541) ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน
จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คงมีปัญหาในชั้นนี้ว่ามีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลยตามที่จำเลยฎีกาหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยมีเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบมือถือไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวมาปรับคลื่นความถี่ให้ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้อื่นและใช้ส่งสัญญาณเสียงไปยังบุคคลภายนอก ก่อให้เกิดความเสียหายและความเดือดร้อนต่อผู้อื่นโดยไม่เป็นธรรม แม้จะฟังได้ตามที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีความจำเป็นต้องอุปการะบิดามารดาและบุตรผู้เยาว์ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษให้จำเลยที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษให้นั้นชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน