คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อสัญญามีความชัดว่าการนำไม้จากป่ามากรุงเทพฯ เป็นหน้าที่ของจำเลย จำเลยกลับจะขอนำสืบว่า ก่อนทำสัญญาโจทก์ได้ตกลงด้วยวาจาเป็นผู้จัดหาช้างงัดไม้ลงน้ำให้ ดังนี้ แม้ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 เมื่อสืบตัวจำเลยแล้วศาลเห็นว่าไม่สมเหตุผลก็สั่งงดสืบพยานอื่นของจำเลยที่เป็นเพียงพยานประกอบได้
เงินที่วางศาลไว้ในระหว่างคดยังไม่ถึงที่สุดไม่มีกฎหมายให้ศาลต้องจ่ายให้แก่ผู้ชนะทันทีในเมื่ออีกฝ่ายยังคัดค้านอยู่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ขายไม้ซุงยาง ๗๐ ท่อนให้จำเลยราคา ๔๕,๐๐๐ บาท โดยมอบที่จังหวัดนครนายก จำเลยได้รับมอบแล้วได้ชำระค่าไม้ส่วนหนึ่งแก่โจทก์ ๒๕,๐๐๐ บาท ที่เหลืออีก ๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยสัญญาจะชำระเมื่อนำไม้ซุงมาถึงอู่บางอ้อโรงเลื่อยลิ่มดงกี่จำกัด จำเลยได้นำไม้มาถึงอู่แล้วแต่ไม่ยอมขำระเงินที่ค้าง จำเลยต่อสูว่าไม้ยังขนมายังไม่หมด เหลืออยู่อีก ๒๐ ท่อนเพราะโจทก์ตกลงจะจัดช้างงัดลงน้ำให้แล้วไม่ปฏิบัติ แต่จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.๑ จริง สัญญาข้อ ๒ มีว่าการนำไม้จากป่ามากรุงเทพฯ เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อจะจัดการนำมาเอง
ศาลแพ่งสั่งให้จำเลยนำสืบ เมื่อสืบตัวจำเลยแล้ว จำเลยแถลงจะขอสืบเพียง ๓ ข้อ รวมใจความว่า ก่อนทำสัญญานั้น ๑ วัน ได้ตกลงกันด้วยวาจาว่าโจทก์รับจะจัดช้างงัดให้ลงน้ำให้ ศาลแพ่งสั่งงดสืบพยานวินิจฉัยว่า ศาลจะรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ เพราะไม่ปรากฏในหนังสือสัญญาที่ตกลงกันขั้นสุดท้ายและไม่ใช่นิติกรรมอำพราง สัญญามิได้ระบุว่า เมื่อนำไม้มาจนหมดเกลี้ยงแล้วจึงจะชำระเงินกัน พิพากษาให้จำเลยชำระเงินที่ค้างชำระพร้อมทั้งดอกเบี้ย
ระหว่างอุทธรณ์จำเลยได้ร้องขอทุเลาการบังคับคดี ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้อง มีผู้น้ำเงินมาวางต่อกองหมาย ขอให้ถอนการยึดและขอให้งดจ่ายเงินนี้แก่โจทก์จนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ของรับเงินนี้ ศาลแพ่งสั่งว่าจ่ายให้ไม่ได้ โจทก์อุทธรณ์ข้อไม่จ่ายเงิน ศาลอุทธรณืพิพากษายืน และให้ยกอุทธรณ์ทั้ง ๒ ฝ่าย
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ศาลจำต้องจ่ายเงิน ในเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดและอีกฝ่ายยังคัดค้านการจ่ายอยู่ ส่วนฎีกาจำเลยแม้เฉพาะคดีนี้จำเลยฝ่ายคัดค้านก็ต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ โจทก์ไม่เสียหาย ส่วนฎีกาจำเลยแม้คดีของจำเลยไม่ต้องห้าม ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๙๔ ศาลชั้นต้นก็ได้สืบจำเลยให้แล้ว แต่หากจะสืบไปก็ไม่มีทางจะให้ฟังข้อเท็จจริงตามที่กล่างล้างนั้นได้ หนังสือสัญญาข้อ ๒ มีความชัดดังกล่าว เมื่อคำจำเลยเองไม่น่าเชื่อฟังแล้วก้ไม่มีประโยชน์ที่จะสืบพยานอื่นประกอบ เห็นพ้องด้วยศาลชั้นต้นที่สั่งงดไม่สืบต่อไป
พิพากษายืน

Share