คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 644/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลมีอำนาจพิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในสำนวนทั้งหมดการที่ศาลชั้นต้นสั่งคดีมีมูลแทนที่จะสั่งยกฟ้องโจทก์เสียในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็เป็นเพียงแต่ให้รับคำฟ้องไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเท่านั้น แต่ในชั้นพิจารณาเมื่อปรากฏจากพยานหลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดดังโจทก์ฟ้อง ศาลก็มีอำนาจยกฟ้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 365และมาตรา 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) ประกอบด้วยมาตรา 362, 83 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์นำเอาข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วแม้คดีนี้เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ก็ตามย่อมหมายความแต่เพียงการพิพากษามิใช่ต้องพิพากษาลงโทษจำเลยดังนั้น เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนให้ศาลเห็นว่า จำเลยมิได้กระทำผิดดังที่จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้องจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพที่ไม่ต้องด้วยความจริงนั้นหาได้ไม่ ในคดีอาญาศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยไม่ไต่สวนมูลฟ้องก็ได้ หากพิจารณาเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดหรือไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องก็ได้ แสดงว่าศาลมีอำนาจพิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในสำนวนทั้งหมด การที่ศาลชั้นต้นสั่งคดีมีมูลแทนที่จะสั่งยกฟ้อง โจทก์เสียในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ก็เป็นเพียงแต่ให้รับคำฟ้องไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเท่านั้นแต่ในชั้นพิจารณาเมื่อปรากฏจากพยานหลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดดังโจทก์ฟ้อง ศาลก็มีอำนาจยกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจนำเอาข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมา วินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ได้
พิพากษายืน

Share