คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6432/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้การยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาลชั้นต้น ผู้ร้องจะต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลขณะยื่นคำร้องตามท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง 2(3) จำนวน 20 บาท และค่าคำสั่งตามตาราง 2(7) อีกจำนวน 50 บาทก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นโดยเสียเฉพาะค่าคำร้อง 20 บาท ศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งให้รับคำร้องและทำการไต่สวนตลอดจนมีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์มีพฤติการณ์จงใจจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลให้ครบถ้วนแต่อย่างใด เมื่อความปรากฏในชั้นพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมศาลให้ครบถ้วนตามท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระเงินกู้ยืมพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งสามไม่ชำระ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 30656, 31544 ตำบลศาลายา อำเภอนครชัยศรี (เมือง) จังหวัดนครปฐม(นครชัยศรี) พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ที่จำนองไว้ต่อโจทก์ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ ปรากฏว่านางสมทรง อมรสังข์ เป็นผู้ซื้อที่ดินดังกล่าวได้จากการขายทอดตลาดในราคา 200,000 บาท

โจทก์ยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวไปในราคาที่ต่ำเกินไป เนื่องจากบริษัทไทยประเมินราคา จำกัด ได้ประเมินราคาไว้เมื่อ วันที่ 6 มกราคม 2536 ตารางวาละ 3,000 บาท เนื้อที่ทั้งหมด 245.5 ตารางวา เป็นเงิน 736,500 บาท นอกจากนี้ทรัพย์พิพาทตั้งอยู่ในที่มีความเจริญติดกับสนามกอล์ฟ รอยัลเจมส์ มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นจำนวนมาก การคมนาคมสะดวกอีกทั้งที่ดินแปลงใกล้เคียงกับที่ดินของจำเลยที่ 2 นั้นเสนอขายกันในราคาตารางวาละ 5,000 บาทและขายได้ในราคาตารางวาละ 4,000 บาท การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าวไปในราคา 200,000 บาท จึงได้เงินไม่เพียงพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดแล้วมีคำสั่งให้มีประกาศขายทอดตลาดใหม่ต่อไป

ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุด ราคาที่ดินที่ซื้อเหมาะสมตามสภาพที่ดินและสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งสูงกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ประเมินไว้ในราคา 122,750 บาท ขอให้ยกคำร้องของโจทก์

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 30656, 31544 ตำบลศาลายา อำเภอนครชัยศรี (เมือง) จังหวัดนครปฐม (นครชัยศรี) ของจำเลยที่ 2 และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดใหม่

ผู้ซื้อทรัพย์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ในราคาต่ำเกินไป ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับความเสียหายซึ่งต้องตามบทบัญญัติมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2542 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2542 ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นฎีกาวันที่ 21 สิงหาคม 2543 หลังจากบทบัญญัติมาตรา 309 ทวิ มีผลใช้บังคับแล้วคำร้องของโจทก์และฎีกาของผู้ซื้อทรัพย์จึงอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติให้คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในเรื่องนี้เป็นที่สุด เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ ผู้ซื้อทรัพย์อุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแล้ว คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามบทกฎหมายดังกล่าว ผู้ซื้อทรัพย์จะฎีกาปัญหาข้อนี้อีกไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาข้อนี้ของผู้ซื้อทรัพย์มาด้วย เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ส่วนที่ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกาว่า โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้มีคำสั่งยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยเสียค่าธรรมเนียมศาลมาไม่ครบ การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องโดยให้ชำระค่าธรรมเนียมศาลเสียให้ครบเป็นการไม่ชอบนั้นเห็นว่า แม้การยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาลชั้นต้น ผู้ร้องจะต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลขณะยื่นคำร้องตามท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นค่าคำร้องตามตาราง 2(3) จำนวน20 บาท และค่าคำสั่งตามตาราง 2(7) อีก จำนวน 50 บาทก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลชั้นต้นโดยเสียเฉพาะค่าคำร้องจำนวน 20 บาท ศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งให้รับคำร้องและทำการไต่สวนตลอดจนมีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์มีพฤติการณ์จงใจจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียมศาลให้ครบถ้วนแต่อย่างใด เมื่อความมาปรากฏในชั้นพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจที่จะใช้ดุลพินิจสั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมศาลให้ครบถ้วนตามท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้ ฎีกาของผู้ซื้อทรัพย์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share