คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยสั่งจ่ายเช็คแล้วนำไปขายลดแก่ธนาคาร เช็คนั้นเก็บเงินไม่ได้ โจทก์ฟ้องจำเลยตามสัญญาขายลด อายุความ10 ปี ตาม มาตรา164 ดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปีตามสัญญาขายลด

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 18,243.17 บาทกับดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปีตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2520 จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “มีปัญหาในชั้นฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และจำเลยจะต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม2520 จนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ในอัตราร้อยละ 14 หรือร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำฟ้อง โจทก์หาได้ฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คให้รับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์ผู้ทรงเช็คไม่ แต่โจทก์ฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาขายลดเช็คที่จำเลยซึ่งเป็นลูกค้าของโจทก์ทำกับโจทก์เมื่อวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2516 ตามเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 2 สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็คไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ซึ่งมีกำหนดอายุความ 10 ปี โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2520 คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ส่วนความรับผิดในเรื่องดอกเบี้ยนั้น จำเลยได้ตกลงกับโจทก์ไว้ในสัญญาขายลดเช็คดังกล่าวโดยแจ้งชัดว่าจำเลยยอมรับผิดชดใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี จำเลยจึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปีให้โจทก์ตามที่โจทก์เรียกร้องคำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างไม่ปรากฏว่าได้มีข้อตกลงกันไว้โดยชัดแจ้งเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเช่นคดีนี้ ข้อเท็จจริงในคดีนั้นจึงไม่ตรงกับกรณีนี้”

พิพากษายืน

Share