คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอก
เมื่อมีข้อโต้เถียงเป็นประเด็นเกิดขึ้นใหม่ในชั้นสืบพะยาน โจทก์อ้างพะยานหลักฐานเพิ่มเติมและศาลก็อนุญาตแล้วดังนี้ ศาลย่อมรับฟังพะยานหลักฐานที่อ้างเพิ่มเติมนี้ได้
คดีอาญาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 8 เดือนจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ต้องห้ามตาม ม.218 แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยทั้ง ๓ รับของทองรูปพรรณ์ของ ล.โจทก์ไปเพื่อขายโดยมีข้อตกลงว่า เมื่อจำเลยขายได้ราคามากว่าที่เจ้าของกำหนดไว้ก็เป็นส่วนได้ของจำเลย ถ้าขายไม่ได้ต้องนำส่งคืนภายใน ๕ วัน ครั้นถึงกำหนดจำเลยมิได้นำของหรือเงินมาส่งโจทก์ ๆ ไปทวงถามก็ผัดผ่อนเรื่อยมาในที่สุดได้ความว่าจำเลยเอาสิ่งของเหล่านั้นไปขายบ้างจำนำบ้าง เอาเงินใช้ส่วนตัวเสียหมดแล้ว
ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำคุกจำเลยตาม ม.๓๑๙(๓) กำหนดคนละ ๘ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยฎีกาได้ฉะเพาะแต่ข้อกฎหมาย ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๒๑๘ สำหรับฎีกาของจำเลยที่ว่าศาลล่างรับฟังสมุดบัญชีที่โจทก์อ้างภายหลังสืบพะยานโจทก์หมดแล้วมิชอบนั้น เห็นว่าจริงอยู่โจทก์มิได้อ้างสมุดเล่มนี้ในชั้นแรก แต่สมุดเล่มนี้เป็นสมุดที่ ก.พะยานโจทก์ได้จดวันและรายสิ่งของซึ่งจำเลยรับไปเมื่อ ก.มาเป็นพะยานเบิกความกล่าวท้าวถึง โจทก์จึงได้ยื่นคำร้องขออ้างสมุดเล่มนี้ประกอบคำของ ก.ว่าจำเลยได้รับสิ่งของไปเมื่อใดเพราะเป็นข้อโต้เถียงเกิดขึ้นในชั้นสืบพะยานในชั้นต้นหามีประเด็นในข้อนี้ไม่ จึงมิได้อ้างสมุดนี้ในเบื้องต้น และศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์อ้างได้แล้ว ศาลก็ย่อมรับฟังสมุดเล่มนี้ได้ ส่วนฎีกาอีกข้อหนึ่งที่ว่าจำเลยไม่ควรมีผิดทางอาญานั้น เห็นว่าตามพฤตติการณ์จำเลยต้องมีผิดในทางอาญาฐานยักยอก ดังที่ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษามา

Share