คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6408/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โรงเรือนของโจทก์ โจทก์มิได้อยู่เองแต่ให้ภรรยาและบุตรอยู่อาศัย ทั้งยังให้บุตรเขยตั้งเป็นสำนักงานทนายความ กรณีไม่ใช่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษา อันจะได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดิน ตาม พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินฯมาตรา 10.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้เพิกถอนการประเมินและคำชี้ขาดคำร้องของดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ ให้โจทก์ได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินให้จำเลยคืนเงินค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินของพนักงานเจ้าหน้าที่และคำชี้ขาดของจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงได้ความตามคำฟ้องว่า ตึกแถวเลขที่ 275/3 นอกจากโจทก์จะให้ภรรยาและบุตรของโจทก์ใช้อยู่อาศัยแล้ว โจทก์ยังให้นายธีระยุทธ ไกรณรงค์บุตรเขยของโจทก์ใช้ตั้งเป็นสำนักงานทนายความด้วย คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์แต่เพียงว่า ตึกแถวเลขที่ 275/3 ดังกล่าวของโจทก์ได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 10 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2475 มาตรา 3 บัญญัติว่าโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ซึ่งเจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษา และซึ่งมิได้ใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรม ท่านให้งดเว้นจากบทบัญญัติแห่งภาคนี้ตั้งแต่พ.ศ. 2475 เป็นต้นไปจากบทบัญญัติดังกล่าว จะเห็นได้ว่า กฎหมายงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินให้เฉพาะแก่โรงเรือนซึ่งเจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาเท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำฟ้องว่า นอกจากโจทก์จะใช้ตึกแถวเลขที่ 275/3 เป็นที่อยู่อาศัยของภรรยาและบุตรแล้ว โจทก์ยังให้นายธีระยุทธ บุตรเขยใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานทนายความด้วย ย่อมถือไม่ได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอยู่เอง หรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาอันจะได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามบทกฎหมายดังกล่าว ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ว่า กรณีตามฟ้องของโจทก์ต้องรับฟังว่า โจทก์ร่วมกับบุตรของโจทก์เป็นผู้ตั้งสำนักงานทนายความเองถือว่าโจทก์อยู่เองและตั้งสำนักงานทนายความเอง และการตั้งสำนักงานทนายความมิได้มีลักษณะเป็นสำนักงานประกอบการค้าหรือธุรกิจไม่ต้องจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีการค้าด้วย จึงได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายนั้น เห็นว่าการใช้อาคารพิพาทตั้งสำนักงานทนายความมีลักษณะเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างหนึ่งถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้อยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษา ส่วนการตั้งสำนักงานทนายความแม้ว่าจะไม่ต้องจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรนั้น ก็หามีผลทำให้หน้าที่การเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินสำหรับตึกแถวพิพาทของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปไม่…”
พิพากษายืน.

Share