แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกมิได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกก็เพราะเหตุที่ผู้ร้องเห็นว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องและบุตรของผู้ร้องเท่านั้นและทรัพย์มรดกที่มีอยู่ทั้งหมดถูกระบุไว้ในพินัยกรรมแล้ว การไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกในกรณีเช่นนี้ยังไม่เป็นเหตุให้ถอนผู้จัดการมรดก การที่ผู้คัดค้านอ้างว่า ผู้ร้องโอนทรัพย์มรดกอันเป็นสินสมรสของผู้คัดค้านเป็นของตน เป็นการส่อไปในทางทุจริตนั้น คดีไม่มีประเด็นให้พิจารณาว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ผู้ร้องได้รับตามพินัยกรรมมีสินสมรสของผู้คัดค้านอยู่ด้วยหรือไม่ ผู้คัดค้านกับ ส. มิได้มีสิทธิในทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมทั้งไม่มีประเด็นว่าทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมมีสินสมรสของผู้คัดค้านรวมอยู่ด้วยหรือไม่ จึงยังไม่มีเหตุผลสมควรจะตั้ง ส.เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสุชาติ ฉายวิเชียร ต่อมาผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่าผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสุชาติผู้ตายผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกได้ละเลยไม่กระทำการตามหน้าที่โดยมิได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกของผู้ตายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกและมิได้ขอขยายระยะเวลาในการจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกต่อศาล ผู้ร้องมิได้แบ่งเงินและอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสินสมรสของผู้ตายกับผู้คัดค้านให้แก่ผู้คัดค้านซึ่งมีสิทธิได้รับกึ่งหนึ่งของทรัพย์มรดกทั้งหมด การกระทำของผู้ร้องเป็นการปฏิบัติผิดหน้าที่ของผู้จัดการมรดก ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมในฐานะคู่สมรสอย่างร้ายแรงหากจะยังคงให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกต่อไปก็มีแต่จะเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์มรดก และแก่ผู้คัดค้านรวมทั้งทายาทอื่นของผู้ตายจึงขอให้มีคำสั่งถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและมีคำสั่งตั้งให้นางสาวสมรศรี ฉายวิเชียร ซึ่งเป็นน้องสาวร่วมบิดาเดียวกันกับผู้ตายเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแทนนางสาวสมรศรีไม่เป็นผู้ต้องห้ามตามกฎหมายมิให้เป็นผู้จัดการมรดก
ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้านว่าผู้ร้องได้รับการแต่งตั้งจากศาลชั้นต้นให้เป็นผู้จัดการมรดกของนายสุชาติโดยอาศัยพินัยกรรมที่ผู้ตายได้ทำไว้โดยยกทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ร้องและบุตรอันเกิดจากผู้ร้อง ผู้ร้องจึงเป็นทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม ส่วนผู้คัดค้านแม้จะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายแต่ถูกตัดจากกองมรดกของผู้ตายโดยพินัยกรรมแล้ว ผู้ร้องได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการมรดกโดยถูกต้อง และโดยเหตุที่มีแต่เพียงผู้ร้องและบุตรของผู้ร้อง 2 คนเท่านั้นที่มีสิทธิในการรับมรดกตามพินัยกรรมการไม่ทำบัญชีทรัพย์มรดกยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะฟังได้ว่าผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่ ทรัพย์มรดกที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างว่าเป็นสินสมรสระหว่างผู้คัดค้านกับผู้ตายไม่มีนางสาวสมรศรี ฉายวิเชียร มิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย จึงมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนที่จะเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกคำร้อง ของ ผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตั้งนางสาวสมรศรีเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ร้องและผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าผู้ร้องเป็นภริยาของนายสุชาติ ฉายวิเชียร ผู้ตาย แต่มิได้จดทะเบียนสมรสกัน มีบุตรด้วยกันสองคน ศาลมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสุชาติผู้ตาย นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องมิได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนด 1 เดือน มีพินัยกรรมของนายสุชาติผู้ตาย ปรากฏตามเอกสารหมาย ร.3 ระบุยกทรัพย์มรดกทั้งหมดของผู้ตายให้แก่ผู้ร้องและบุตรธิดา ของผู้ร้องสำหรับผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย แต่เป็นผู้ไม่มีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรม ผู้ร้องได้โอนทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมมาเป็นชื่อของผู้ร้องแล้ว
ปัญหาว่าสมควรถอดถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เห็นว่า การที่ผู้ร้องมิได้ทำบัญชีทรัพย์มรดกก็เพราะเหตุที่ผู้ร้องเห็นว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องและบุตรของผู้ร้องเท่านั้น และทรัพย์มรดกที่มีอยู่ทั้งหมดก็ถูกระบุไว้ในพินัยกรรมแล้ว การไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกในกรณีเช่นนี้ยังไม่เป็นเหตุให้ต้องถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกสำหรับเรื่องที่อ้างว่าผู้ร้องโอนทรัพย์มรดกอันเป็นสินสมรสของผู้คัดค้านมาเป็นของตนเป็นการส่อไปในทางทุจริตนั้นปรากฏว่าคดีนี้ไม่มีประเด็นให้พิจารณาว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ผู้ร้องได้รับตามพินัยกรรมนั้นมีสินสมรสของผู้คัดค้านอยู่ด้วยหรือไม่ เพียงใดจึงไม่อาจวินิจฉัยตามข้ออ้างของผู้ร้องดังกล่าวข้างต้นได้ ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลสมควรถอดถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ปัญหาว่าสมควรตั้งนางสาวสมรศรี ฉายวิเชียร เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องหรือไม่ เมื่อคดีนี้ทรัพย์มรดกของผู้ตายคงมีแต่เฉพาะที่ระบุในพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.3 และตัวผู้คัดค้านกับนางสาวสมรศรี ฉายวิเชียร มิได้มีสิทธิในทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมดังกล่าว ทั้งไม่มีประเด็นว่าทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมมีสินสมรสของผู้คัดค้านรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เพียงใด จึงเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลสมควรจะตั้งนางสาวสมรศรี ฉายวิเชียร เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้อง ของ ผู้คัดค้านที่ขอให้ตั้งนางสาวสมรศรี ฉายวิเชียร เป็นผู้จัดการมรดกเสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์