คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6359/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างขาดนัดยื่นคำให้การ จึงไม่มีประเด็นในปัญหาว่าสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 1และโจทก์ทำให้หนี้ในมูลละเมิดระงับลงอันมีผลทำให้จำเลยที่ 2ในฐานะนายจ้างของจำเลยที่ 1 หลุดพ้นจากความรับผิดไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 852 ปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องอำนาจฟ้อง และไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างในการยื่นอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้เงินจำนวน 22,873.15 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากยอดเงิน 21,955 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยชำระให้โจทก์เสร็จกับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ และเฉพาะจำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2ร่วมกันชำระเงินจำนวน 22,873.15 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 21,955 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2ไปในทางการที่จ้างชนกับรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้เสียหายจำเลยที่ 1 ได้ตกลงชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ตามสำเนาบันทึกประจำวันเอกสารหมาย จ.6 คดีมีข้อวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยที่ 2ในปัญหาข้อกฎหมายว่าอุทธรณ์จำเลยที่ 2 ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 หรือไม่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์มาเป็นสำคัญว่าการที่จำเลยที่ 1 ยอมตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามสำเนาบันทึกประจำวันเอกสารหมาย จ.6 ย่อมมีผลทำให้หนี้ในมูลละเมิดระงับลงคงมีผลผูกพันกันตามข้อตกลงดังกล่าวเท่านั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิมาฟ้องให้จำเลยที่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิดอีก และวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225บัญญัติว่า ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในการยื่นอุทธรณ์นั้นต้องเป็นข้อกฎหมายที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ยกเว้นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงจะหยิบยกขึ้นอ้างอิงในการยื่นอุทธรณ์ได้ แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น เมื่อจำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การปัญหาข้อที่ว่าสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวทำให้หนี้ในมูลละเมิดระงับลงอันมีผลให้จำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างของจำเลยที่ 1 หลุดพ้นจากความรับผิดไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 หรือไม่ จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ ปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องอำนาจฟ้องและไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยที่ 2 จึงยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างในการยื่นอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
พิพากษายืน.

Share