แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไช้อาวุธปืนจ้องยิงตำหรวด หากแต่ปืนนั้นมีปลอกกะสุนคาลำกล้องหยู่ แม้จะปรากตว่าปืนนั้นจะยิงได้ต่อเมื่อเอาปลอกกะสุนออกแล้วก็ดีก็นับว่าเปนเหตุพ้นวิสัยมาขัดขวางมิไห้ทำผิดสำเหร็ด กรนีเปนความผิดถานพยายามค่าคนตามกดหมายแล้ว.
ย่อยาว
คดีมาสู่สาลดำกาฉเพาะข้อหาถานพยายามค่าเจ้าพนักงานซึ่งสาลชั้นต้นลงโทสแต่สาลอุธรน์เห็นว่า ขนะที่จำเลยยกอาวุธขึ้นจ้องทำท่าจะยิงตำหรวดนั้น ยังมีปลอกกะสุนปืนคาหยู่ไนลำกล้องปืน ทั้งกะสุนปืนอีกนัดหนึ่งก็เคลื่อนขึ้นไปขัดลำกล้องหยู่ สภาพของอาวุธปืนยังไม่พร้อมที่จะไช้ยิงได้ ผลแห่งการขัดข้องไนการยิงไม่สำเหร็ดจึงไม่ไช่ผลแห่งความสุดวิสัย อันเกิดจากการที่จำเลยได้กะทำลงไนขนะนั้น จำเลยจะต้องกะทำอะไรอีกหลายหย่างจึงจะยิงได้ การกะทำของจำเลยจึงหยู่ไนขั้นที่ห่างเหิน ยังไม่เข้าลักสนะความผิดถานพยายามค่าคน จึงพิพากสาไห้ยกข้อหาถานนี้
โจทดีกา สาลดีกาฟังพยานโจทว่าปืนของกลางมีกะสุนหยู่ไนปืน ๓ นัด นัดหนึ่งกำลังจะขั้นลำกล้องและขัดลำกล้องหยู่ ส่วนปลอกกะสุนนัดหนึ่งที่ยิงแล้วยังหยู่ไนลำกล้องและขัดลำกล้องหยู่ พยานผู้ชำนาญการพิเสสเบิกความว่าปืนหย่างนี้ ถ้ามีกะสุนค่าหยู่จะยิงไม่ได้ ต้องสลัดปลอกออกเสียก่อนถ้าจะเอาปลอกที่คาหยู่ออกจะต้องเอาลูกเลื่อนออกหรืแคะออก ได้ความดังนี้ สาลดีกาเห็นว่าตามที่จำเลยไช้อาวุธปืนพยายามยิงตำหรวดและยิงไม่ออกดังกล่าวแล้วนั้นเปนเหตุสุดวิสัยขัดขวาง กรนีเข้าขั้นพยายามแล้ว จึงพิพากสาลงโทสจำเลยตามสาลชั้นต้น.