คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6345/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้เสียหายถูกแทงมีบาดแผลที่ชายโครงซ้ายยาว 3 เซนติเมตรเพียงแห่งเดียว แพทย์ลงความเห็นว่าถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนรักษาไม่เกิน21 วันหายแม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าหลังเกิดเหตุไม่สามารถทำนาได้ตลอดระยะเวลา 6 เดือน แต่ก็ปรากฏว่าผู้เสียหายเพียงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรวมสองครั้งรวมแล้วไม่เกิน 20 วัน ผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลครั้งสุดท้ายทางโรงพยาบาลมิได้จ่ายยาให้ไปรักษาต่อที่บ้าน ไม่ปรากฏว่ามีอาการอย่างใดแทรกซ้อน จนผู้เสียหายต้องย้อนกลับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีก ทั้งบาดแผลดังกล่าว แพทย์ผู้ตรวจรักษาก็เบิกความว่าลึกไม่ถึงปอด ย่อมไม่น่าเชื่อว่าจะก่อเกิดอันตรายแก่สุขภาพและอนามัยเป็นอุปสรรคให้ผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้ตามที่ผู้เสียหายเบิกความ จึงไม่พอที่จะรับฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมฟันและแทงทำร้ายนายจันทร์หรือินจันทร์ แก้วเทพ ผู้เสียหาย 2 ที โดยเจตนาฆ่า จำเลยลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลเนื่องจากผู้เสียหายใส่เสื้อกันหนาวขนาดหนาจึงไม่ได้รับอันตรายจากการถูกฟันที่ไหล่ซ้ายส่วนบาดแผลถูกแทงที่ชายโครงซ้ายก็ไม่สาหัสถึงขนาดที่จะทำให้ตายประกอบกับแพทย์ให้การรักษาทันท่วงทีผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมเจตนาของจำเลย ผู้เสียหายเพียงได้รับอันตรายแก่กายสาหัสต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาและประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297(8) ลงโทษจำคุก 4 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันและผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายสาหัส
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์แต่เพียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสตามฟ้องหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้เสียหายถูกแทงมีบาดแผลที่ชายโครงซ้ายยาว 3 เซนติเมตร เพียงแห่งเดียวแพทย์ลงความเห็นว่าถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนรักษาไม่เกิน 21 วัน หาย โจทก์มีผู้เสียหายเป็นพยานเบิกความว่า ได้เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งแรก10 วัน หลังจากตัดไหมและออกไปได้ 2 วัน เกิดมีโลหิตซึมจากบาดแผลจึงเข้ารักษาต่ออีก 2 วัน เกิดเหตุแล้วผู้เสียหายไม่สามารถทำนาได้ตลอดระยะเวลา 6 เดือน พิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้เสียหายเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งสองครั้งไม่เกิน 20 วัน ผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลครั้งสุดท้ายโดยทางโรงพยาบาลมิได้จ่ายยาให้ไปรักษาต่อที่บ้าน ไม่ปรากฏว่ามีอาการอย่างใดแทรกซ้อน จนผู้เสียหายต้องย้อนกลับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีก ทั้งบาดแผลดังกล่าวนี้นายแพทย์ขจรศิลป์ ผ่องสวัสดิ์กุล พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ตรวจรักษาเบิกความว่าลึกไม่ถึงปอด จึงไม่น่าเชื่อว่าจะก่อเกิดอันตรายแก่สุขภาพและอนามัยเป็นอุปสรรคให้ผู้เสียหายประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้ถึง 20 วันดังที่ผู้เสียหายเบิกความ พยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอที่จะรับฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส…”
พิพากษายืน.

Share