แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งเทป หรือวัสดุโทรทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้ประโยชน์ตอบแทนเท่านั้นที่ต้องห้ามมิให้มีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและได้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานผู้ตรวจตามกฎหมายไว้ในสถานประกอบกิจการของตน หากฝ่าฝืนต้องมีความผิดและต้องรับโทษ แต่การที่จะขอให้เจ้าพนักงานทำการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ บุคคลใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบกิจการดังกล่าวแล้วหรือบุคคลธรรมดาย่อมมีสิทธิที่จะยื่นคำขอได้ และเมื่อมีสิทธิที่จะยื่นคำขอดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมมีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่ได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจแล้วไว้ในครอบครองได้ เทปของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 6, 34 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 6, 34ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 2,100 บาท โทษจำคุกเห็นสมควรรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน ของกลางเห็นสมควรไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง โดยอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ขอให้ริบของกลาง โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน จำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยจึงไม่สามารถจะขออนุญาตมีไว้ในครอบครองในสถานที่ ประกอบกิจการ และจำเลยไม่อาจนำเทปไปขอให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจทำการตรวจ เทปของกลางเป็นทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดและเป็นทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดจึงต้องริบนั้น พระราชบัญญัติควบคุมทำกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 11 บัญญัติว่า “การตรวจพิจารณาให้ความเห็นชอบในเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ ให้ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 6 หรือบุคคลอื่นซึ่งประสงค์จะให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจทำการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบในเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ของตน ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานผู้ตรวจตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการและส่งมอบเอกสารประกอบการพิจารณาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง พร้อมทั้งมอบสำเนาเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ซึ่งมีภาพและเสียงอย่างเดียวกันให้กับเจ้าพนักงานผู้ตรวจสองสำเนา
เทปหรือวัสดุโทรทัศน์แต่ละเรื่องที่ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับความเห็นชอบตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจให้หมายเลขรหัสประจำเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ และประทับหมายเลขรหัสลงบนเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ทั้งสองสำเนา และส่งคืนให้ผู้ยื่นคำขอหนึ่งสำเนาและเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตรวจสอบหนึ่งสำเนา และในกรณีที่เจ้าพนักงานผู้ตรวจเห็นเป็นการสมควรอาจสั่งให้ผู้ยื่นคำขออัดหรือบันทึกคำบอกแจ้งว่าเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ดังกล่าวได้ผ่านการตรวจพิจารณาของเจ้าพนักงานผู้ตรวจ ไว้บนเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด
ในกรณีที่ปรากฏว่าเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มีผู้ยื่นคำขอให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจทำการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบได้ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับความเห็นชอบมาแล้ว ให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจคืนสำเนาเทปหรือวัสดุเทปโทรทัศน์แก่ผู้ยื่นคำขอ
ให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจดำเนินการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบในเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ตามที่มีผู้ยื่นคำขอให้ตรวจพิจารณาโดยเร็ว ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด
ให้นายทะเบียนกลางมีอำนาจกำหนดให้เทปหรือวัสดุโทรทัศน์ประเภทหนึ่งประเภทใดที่ผู้ยื่นคำขอได้รับการยกเว้นไม่ต้องมอบสำเนาเทปหรือวัสดุโทรทัศน์หนึ่งสำเนาไว้ให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตรวจสอบก็ได้”
มาตรา 35 บัญญัติว่า “ผู้ได้รับอนุญาตตามมาตรา 6 ผู้ใด
(1) มีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ ซึ่งมิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานผู้ตรวจสอบตามมาตรา 11 หรือมาตรา 14 หรือมิได้มีผู้รับรองสำเนาตามมาตรา 17 หรือ
(2) …
ไว้ในสถานประกอบกิจการของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาททั้งจำทั้งปรับ”
ตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นว่า เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้ประโยชน์ตอบแทนเท่านั้นที่ต้องห้ามมิให้มีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบโดยเจ้าพนักงานผู้ตรวจตามกฎหมายไว้ในสถานประกอบกิจการของตน หากฝ่าฝืนต้องมีความผิดและต้องรับโทษ แต่การที่จะขอให้เจ้าพนักงานผู้ตรวจทำการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ บุคคลใด ๆไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบกิจการดังกล่าวแล้วหรือบุคคลธรรมดาย่อมมีสิทธิที่จะยื่นคำขอได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 11 และเมื่อมีสิทธิที่จะยื่นคำขอดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมมีเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่ได้ผ่านการตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจแล้วไว้ในครอบครองได้ เทปของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และความผิดฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้ประโยชน์ตอบแทน โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น สาระสำคัญในการกระทำผิดอยู่ที่จำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน เทปของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
พิพากษายืน