คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6268/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ซึ่งลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ด้วยการโฆษณาตาม ป.อ. มาตรา 326, 328 พ.ร.บ.การพิมพ์ฯ มาตรา 48 แต่ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ฯ มาตรา 3 ให้ยกเลิก พ.ร.บ.การพิมพ์ฯ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2550 เป็นต้นไป และ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ฯ ไม่ได้บัญญัติให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ตนเป็นบรรณาธิการ ฉะนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดอีกต่อไป จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์และผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ จำเลยได้ตีพิมพ์เสนอภาพและข้อความหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332, 58, 91 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 48 และให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ และในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับอื่นอีก 7 ฉบับ คือ มติชน เดลินิวส์ ไทยรัฐ ข่าวสด เดอะเนชั่น บางกอกโพสต์ และแนวหน้า เป็นเวลา 15 วันติดต่อกัน ด้วยตัวอักษรขนาดเท่ากับจำเลยได้เสนอข่าว (ฝ.ส. 12) โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา หากจำเลยไม่สามารถลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งฉบับใดได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ก็ให้จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับอื่นตามที่โจทก์เป็นผู้กำหนดโดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา ให้บวกโทษจำคุกที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในคดีหมายเลยดำที่ 3049/2540 ระหว่าง นายชวน โจทก์ นายทวีสิน ที่ 3 จำเลย รวมกับโทษจำคุกในคดีนี้
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 48 วรรคสอง ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 40,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนทั้งจำเลยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์อันเป็นสื่อมวลชนแขนงหนึ่งมีโอกาสเผยแพร่ข่าวสารอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้แก่จำเลยบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมต่อไปจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อพอได้ใจความในหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ คือหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ หนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เป็นเวลาติดต่อกันฉบับละ 5 วัน และใช้ตัวอักษรขนาดตัวพิมพ์ที่ใช้พิมพ์ข้อความที่พิพาทคดีนี้ โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา หากจำเลยไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น หรือฉบับอื่นแทนโดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณาทั้งหมด คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ซึ่งลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 48 แต่ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 ซึ่งมีผลบังคับใช้แต่วันที่ 19 ธันวาคม 2550 เป็นต้นไป และพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ไม่ได้บัญญัติให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เป็นผู้รับผิดชอบในข้อความที่ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ตนเป็นบรรณาธิการ ฉะนั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดอีกต่อไป จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share