คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 1 ยืนเอามือกุมด้ามปืนคุมเชิงอยู่และพูดว่าค้นเอาให้หมด ขณะที่จำเลยที่ 2 ค้นเอาเงินจากผู้เสียหายนั้นเป็นการแสดงการขู่เข็ญแล้วทั้งจำเลยที่ 2ยังกระชากมือผู้เสียหายซึ่งปิดกระเป๋าไว้เพื่อสะดวกในการล้วงเอาเงินเป็นการใช้กำลังทำร้ายย่อมเข้าลักษณะชิงทรัพย์ตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันชิงทรัพย์

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยสมคบกันชิงทรัพย์ของผู้เสียหายจริงดังฟ้อง มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 299, 63 จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสอง ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

ศาลฎีกาเห็นว่ากริยาที่จำเลยที่ 1 ยืนเอามือกุมด้ามปืนคุมเชิงอยู่และยังได้ความอีกว่าได้พูดกระชากว่าค้นเอาให้หมดในขณะที่จำเลยที่ 2 ทำการค้นเอาเงินจากผู้เสียหายนั้นเป็นการแสดงการขู่เข็ญแล้วเพราะทำให้ผู้เสียหายกลัวภัยจากอาวุธนั้นไม่กล้าขัดขืน ทั้งยังได้ความอีกว่าผู้เสียหายเอามือปิดกระเป๋าไว้ จำเลยที่ 2 กระชากเอามือออก เพื่อให้เป็นความสะดวกในการล้วงเอาเงินเป็นการใช้กำลังทำร้ายเข้าลักษณะชิงทรัพย์ตามกฎหมาย

จึงพิพากษายืน

Share