แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีอายุ 60 ปีเศษ กำลังขึ้นอยู่บนต้นตาลผู้ตายอายุประมาณ 30 ปี ได้มาร้องท้าทายให้จำเลยมาฟันกัน จำเลยลงมาจากต้นตาล ในมือถือมีดปาดตาล แต่ยังไม่ทันได้ต่อสู้กันเพราะมีผู้อื่นห้ามไว้ จำเลยวิ่งหนีกลับไปที่ขนำที่พักของจำเลยพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แสดงว่าจำเลยมีความเกรงกลัวผู้ตาย ผู้ตายมีขวานวิ่งตามไปติด ๆ ห่างกันเพียง 2 วา จำเลยหนีไปถึงขนำที่พักของจำเลยแล้วผู้ตายยังตามไปใช้ขวานฟันจำเลยก่อนที่หน้าขนำที่พักของจำเลย จำเลยจึงคว้าพร้างอฟันไปถูกที่ศีรษะของผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดพร้าฟันนายประจวบ ทองนิล ๑ ทีโดยเจตนาฆ่านายประจวบได้ถึงแก่ความตายในทันทีสมดังเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ และริบของกลางมีดพร้า ๑ เล่ม
จำเลยให้การว่าได้ฟันผู้ตายเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่ากรณีเป็นเรื่องสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันมีดที่จำเลยใช้ทำร้ายมีขนาดใหญ่ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าถ้าได้ใช้ทำร้ายผู้ตาย ผู้ตายก็ย่อมจะต้องถึงแก่ความตายได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ แต่ผู้ตายเป็นคนต้นเหตุที่พูดก้าวร้าวและท้าทาย ควรลงโทษสถานเบาให้จำคุก ๑๕ ปี มีดของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาเห็นว่าจำเลยไม่ได้สมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กับผู้ตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ – ๑๗.๐๐ นาฬิกา ขณะจำเลยซึ่งมีอายุ ๖๐ ปีเศษขึ้นอยู่บนต้นตาล ผู้ตายอายุประมาณ ๓๐ ปีได้มาร้องท้าทายให้จำเลยมาฟันกัน จำเลยลงมาจากต้นตาลในมือถือมีดปาดตาล แต่ยังไม่ทันได้ต่อสู้เพราะมีบุคคลอื่นห้ามไว้ จำเลยวิ่งหนีกลับไปที่ขนำที่พักของจำเลยพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นด้วย วินิจฉัยว่าการที่จำเลยวิ่งหนีและร้องขอความช่วยเหลือแสดงว่าจำเลยมีความเกรงกลัวผู้ตาย ไม่น่าเชื่อว่าจำเลยจะกล้าสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ด้วยกับผู้ตายซึ่งหนุ่มกว่ามาแต่แรก ฉะนั้นเมื่อผู้ตายมีขวานวิ่งตามไป ติด ๆ ห่างกันเพียง ๒ วา จำเลยหนีไปถึงขนำที่พักของจำเลยแล้ว ผู้ตายก็ยังตามไปใช้ขวานฟันจำเลยอีก จำเลยจึงย่อมจะมีสิทธิป้องกันตัวได้ การที่ผู้ตายใช้ขวานฟันจำเลยก่อนที่หน้าขนำที่พักของจำเลย แล้วจำเลยจึงคว้าพร้างอฟันไปถูกที่ศีรษะของผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยหามีความผิดไม่
พิพากษายืน