คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มาตรา 8 พระราชบัญญัติสาธารณสุขมิได้กำหนดให้อำนาจเทศบาลสั่งห้ามการกระทำเกี่ยวกับสุขลักษณ์โดยทั่วไปแต่ให้มีอำนาจออกเทศบัญญัติหรือข้อบังคับควบคุมได้ถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามก็ชอบที่จะขอให้ลงโทษตาม มาตรา 68 จะดำเนินคดีแพ่งอย่างเดียวขอให้ห้ามมิให้ผู้กระทำผิดกระทำการต่อไปไม่ได้
อำนาจสั่งห้ามผู้กระทำผิดมิให้กระทำต่อไปตาม มาตรา 68นั้นเป็นวิธีอุปกรณ์ของโทษปรับตาม มาตรา นั้นเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 6 เป็นเจ้าของโรงหล่อหลอมเหล็กยี่ห้อ ซินตังอาตั้งอยู่ที่ตำบลวัดโสมนัส อำเภอป้อมปราบ จังหวัดพระนคร ได้ประกอบกิจการนี้ตั้งแต่ก่อนวันที่ 26 เมษายน 2494 ซึ่งเป็นวันที่ใช้เทศบัญญัติเรื่องควบคุมการค้าซึ่งเป็นที่รังเกียจหรืออาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2494 บังคับ ตามเทศบัญญัตินี้ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบการค้าที่กำหนดควบคุมไว้รวมถึงการหลอมโลหะด้วยในเขตเทศบาลนครกรุงเทพฯ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต หลังจากเทศบัญญัตินี้ใช้บังคับแล้วจำเลยยังฝ่าฝืน จึงขอให้สั่งห้าม

จำเลยให้การต่อสู้หลายประการและฟ้องแย้งให้บังคับเทศบาลสั่งอนุญาตให้จำเลยประกอบกิจการได้ต่อไป

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่าจำเลยไม่มีอำนาจฟ้องแย้งได้

ต่อมาจำเลยที่ 6 ถึงแก่กรรมโจทก์จึงถอนฟ้องจำเลยที่ 6 เสีย

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษาห้ามมิให้จำเลยประกอบกิจการหล่อหลอมอีกต่อไป ยกฟ้องแย้ง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีข้อวินิจฉัยว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องหรือไม่โจทก์ฟ้องอาศัยอำนาจตาม มาตรา 8 พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2484 ตามมาตรานี้มิได้ให้อำนาจโจทก์สั่งห้ามได้โดยทั่วไป แต่กำหนดให้ออกเทศบัญญัติหรือข้อบังคับควบคุมได้ เมื่อมีเทศบัญญัติแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็จะต้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 68 อำนาจสั่งห้ามมิให้ประกอบกิจการต่อไปเป็นวิธีการอุปกรณ์ของโทษปรับตามมาตรานี้เท่านั้น โจทก์จะดำเนินคดีแพ่งอย่างเดียวขอให้ห้ามจำเลยจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share