แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หญิงต่างด้าวทำการสมรสกับคนไทยตามประเพณีถือว่ายังมิใช่เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะยังมิได้มีการจดทะเบียนสมรสกันหญิงนั้นจะอาศัยสิทธิในฐานะภริยาคนสัญชาติไทยยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อได้รับสิทธิการเป็นคนสัญชาติไทยตามความในมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มิได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เดิมผู้ร้องเป็นหญิงต่างด้าว เชื้อชาติและสัญชาติจีน ได้เดินทางเข้ามาอยู่ชั่วคราว ในประเทศไทยและได้ทำการสมรสกับนายปลิว แก่นจันทร์คนสัญชาติไทยตามประเพณีผู้ร้องจึงได้สัญชาติไทยตามกฎหมายผู้ร้องและสามียื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสต่อเจ้าพนักงานอำเภอดุสิต ทางอำเภอได้ส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อขออนุมัติ ในระหว่างนั้นผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอพิสูจน์สัญชาติเป็นไทยต่อคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองโดยเหตุที่ได้สมรสกับคนไทยและขออยู่ชั่วคราวคณะกรรมการปฏิเสธการขอพิสูจน์สัญชาติของผู้ร้องและให้ผู้ร้องออกจากประเทศไทยภายใน 48 ชั่วโมง ผู้ร้องจึงขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นคนมีสัญชาติไทย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้อง อ้างว่าคำร้องแสดงว่าผู้ร้องมิใช่คนสัญชาติไทยและยังไม่ได้สัญชาติไทย ไม่มีอะไรที่ศาลจะพึงไต่สวนและสั่งว่าผู้ร้องเป็นคนสัญชาติไทย
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำร้องเห็นได้ชัดแจ้งว่าผู้ร้องกับนายปลิวยังมิใช่สามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะยังมิได้จดทะเบียนสมรสกัน (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1449) ผู้ร้องจะอาศัยสิทธิในฐานะภริยาคนสัญชาติไทยเพื่อได้รับสิทธิการเป็นคนสัญชาติไทย ตามความใน มาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มิได้
พิพากษายืน