แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อกฎหมายในเวลากระทำผิดถูกยกเลิก และกฎหมายในขณะพิจารณาก็ไม่มีบทบังคับว่าเป็นความผิด ต้องใช้กฎหมายในขณะฟ้องและพิจารณาบังคับคดี อ้างฎีกาที่ 908/2474, ที่ 932/2474,ที่ 492/2475.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้ตัดไม่หวงห้าม ใบอนุญาตสิ้นอายุวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๔๘๔ แล้ว ไม่ส่งคืนใบอนุญาตยังกรมการอำเภอ ขอให้ลงโทษตามกฎข้อบังคับวางระเบียบวิธีจัดการรักษาป่า พ.ศ.๒๔๕๖ ข้อ ๑๕,๑๖ ศาลชั้นต้นพิจารณาเห็นว่า ได้มีพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ ประกาศใช้เป็นกฎหมายยกเลิกข้อบังคับที่โจทก์อ้างขอให้ลงโทษนั้นเสียแล้ว จึงไม่มีบทกฎหมายดังอ้างจะลงโทษจำเลย พระราชบัญญัติรักษาป่า พ.ศ.๒๔๘๔ ไม่มีบทลงโทษผู้ไม่ส่งคืนใบอนุญาตจึงใช้พระราชบัญญัติรักษาป่าไม้บังคับแก่คดีนี้ตามกฎหมายอาญามาตรา ๘ เพราะเป็นกฎหมายที่มีโทษเบาแก่จำเลย จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามาตรา ๘ เป็นบทยกเว้นในเมื่อกฎหมายในเวลากระทำผิดกับเวลาพิจารณาขัดแย้งกัน เมื่อพิเคราะห์ถึงความประสงค์และฉบับภาษาอังกฤษประกอบด้วยแล้ว จะเห็นชัดว่ามุ่งหมายให้ใช้กฏหมายที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยเป็นบทบังคับคดี จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ากฏข้อบังคับที่โจทก์อ้างได้ถูกยกเลิกไม่เป็นกฎหมายเสียแล้วขณะนี้บทบัญญัติในเรื่องป่าไม้ต้องใช้พระราชบัญญัติป่าไม้บังคับ พระราชบัญญัติป่าไม้นี้มิได้มีบทบังคับให้จำเลยต้องส่งคืนใบอนุญาต จึงเป็นอันว่าขณะนี้กฎหมายไม่ลงโทษจำเลย คดีอยู่ในบังคับมาตรา ๘ ซึ่งเคยมีคำพิพากษาฎีกาตีความหมายแห่งมาตรา ๘ ไว้เป็นแบบอย่าง คือ คดีที่ ๙๐๘/๒๔๗๔, ๙๓๒/๒๔๗๔ และที่ ๔๙๒/๒๔๗๕ ซึ่งให้ใช้กฎหมายขณะฟ้องและขณะพิจารณาบังคับคดีในกรณีอย่างนี้ จึงพิพากษายืน