คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เข้ามาทำรั้วไว้ในที่ดินของจำเลยโดยไม่มีอำนาจนายอำเภอสั่งให้โจทก์รื้อโจทก์ก็เพิกเฉยเสียจำเลยจึงรื้อรั้วเสียเองเป็นการใช้สิทธิตามควรแก่เหตุ ไม่เป็นละเมิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินแปลงหนึ่ง ตั้งอยู่ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอเขาไชยสน จังหวัดพัทลุงมีอาณาเขตตามแผนที่ท้ายฟ้อง ครั้นเมื่อเดือน 9 ขึ้น 2-3 ค่ำปีนี้จำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันทำลายรั้วเขตที่ดินของโจทก์ทางทิศใต้และทางทิศตะวันออกให้เสียหาย ขุดพื้นพื้นดินเพื่อปลูกโรงโดยมิได้มีอำนาจ เจตนาจะแย่งกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จึงฟ้องขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า เดิมที่พิพาทนี้เป็นของนายฤทธิ์ฯ ขายให้นายไฝทำหนังสือซื้อขายกันที่อำเภอ ต่อมานายไฝขายให้แก่นางหลับพี่สาวจำเลยที่ 1 ทำหนังสือซื้อขายกันที่อำเภอ นางหลับได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการทำประโยชน์ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธว่ามิได้เกี่ยวข้องอย่างใดและว่า โจทก์มิใช่เจ้าของ เพียงแต่อาศัยเจ้าของเดิมอยู่เท่านั้น

ต่อมานางหลับ ยื่นคำร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลย และให้การว่าที่รายนี้เป็นของผู้ร้องสอดได้ซื้อมาจากนายไฝ ได้มอบให้นางรังจำเลยครอบครองทำประโยชน์แทน

ศาลจังหวัดพัทลุงพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตาม

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีเรื่องนี้แล้ว ทางพิจารณาได้ความว่า เดิมที่พิพาทรายนี้เป็นของนายกงหมิ่น ๆ ยกให้นายฤทธิ์ทั้งแปลงใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2494 นายฤทธิ์ขายที่เฉพาะที่พิพาทให้แก่นายไฝเป็นราคา 2,000 บาท ทำหนังสือซื้อขายกันที่กิ่งอำเภอเขาไชยสน ต่อมานายไฝขายที่พิพาทให้แก่นางหลับ ตามหนังสือซื้อขายของกิ่งอำเภอเขาไชยสน ลงวันที่ 19 มีนาคม 2496 เป็นราคา 6,000 บาท

ข้อที่โจทก์เบิกความว่า ได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ 10 ไร่เศษรวมทั้งที่พิพาทจากนายเล่าลิ่ม เป็นราคา 150 บาท ก็มิได้ทำหนังสือซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่มีพยานบุคคลรู้เห็นในการซื้อขายมาสืบ กลับปรากฏจากคำของนายอั้น พยานโจทก์ว่า ที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่ 12 ไร่ รวมทั้งที่พิพาทเดิมเป็นของนายกงหมิ่นและว่า นายฤทธิ์เป็นผู้เสียเงินบำรุงท้องที่ในที่ดินรายนี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2482 จึงลบล้างถ้อยคำของโจทก์ที่อ้างว่าซื้อที่ดินมาจากนายเล่าลิ่ม อนึ่ง ตามคำเบิกความของนายฤทธิ์ว่า เมื่อปลายปี พ.ศ. 2492 นายกงหมิ่นได้พูดขอให้โจทก์อาศัยอยู่ในที่บริเวณที่ดินที่นายกงหมิ่นยกให้นายฤทธิ์ ๆ จึงอนุญาตให้อาศัยในที่ดินทางทิศเหนือ ไม่เกี่ยวข้องในที่พิพาท

ในเรื่องค่าเสียหายได้ความว่า โจทก์เข้าไปทำรั้วในที่ดินของนางหลับ ผู้ร้องสอดโดยไม่มีอำนาจ นายอำเภอได้ไปตรวจดูแล้วสั่งให้โจทก์รื้อ ถ้าโจทก์ไม่รื้อก็ให้จำเลยรื้อได้ โจทก์เพิกเฉยเสีย ต่อมานายรัง จำเลยจึงจัดการรื้อเองอันเป็นการใช้สิทธิตามควรแก่เหตุ ไม่เป็นการละเมิด

เห็นว่า ศาลทั้งสองพิพากษาไว้ชอบแล้ว

จึงพิพากษายืนตาม ให้ยกฎีกาของโจทก์ ให้โจทก์เสียค่าทนายความชั้นศาลฎีกา 100 บาท ให้แก่จำเลยและผู้ร้องสอด

Share