คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6212/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย การครอบครองเครื่องกระสุนปืนของกลางจึงไม่ต้องมีใบอนุญาตอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ วรรคสอง ลงโทษจำคุก ๒ ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน เนื่องจากเครื่องกระสุนปืนของกลางมีจำนวนมากถึง ๓๗๐ นัด เป็นภัยต่อความสงบสุขของประชาชนโดยส่วนรวม จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษแก่จำเลย ริบของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ริบของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ร้อยโทผจญผู้บังคับหมวดลาดตระเวนกองพันทหารม้าที่ ๑๒ อำเภอเด่นชัย ซึ่งปฏิบัติราชการสนามที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ ๓ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นำทหารประมาณ ๕๐ คน เข้าตรวจค้นบ้านของจำเลยและบริวารจำเลยซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันรวม ๑๑ หลัง จากการตรวจค้นพบอาวุธปืน ๙ กระบอก มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้ตามกฎหมาย ตามสำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน นอกจากนี้ยังพบเครื่องกระสุนปืนตามฟ้องซึ่งเป็นขนาดเดียวกับอาวุธปืนทั้ง ๙ กระบอก และอุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธปืนทั้ง ๙ กระบอก ได้คืนให้แก่เจ้าของไปแล้ว ส่วนเครื่องกระสุนปืนตามฟ้องและอุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืน ร้อยโทผจญยึดมาเป็นของกลาง แล้วนำตัวจำเลยพร้อมของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ จำเลยนำสืบว่า นางสาวอรุณีบุตรสะใภ้จำเลย จำเลย นายวิจารณ์บุตรชายจำเลย และนายอะหลู่ผ่าน้องชายจำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ดังนั้น เครื่องกระสุนปืนของกลางตามฟ้องจึงเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนที่นางสาวอรุณี จำเลย นายวิจารณ์ และนายอะหลู่ผ่าซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนโดยชอบแล้ว และกระสุนปืนของกลางแต่ละขนาดต่างก็อยู่ในความครอบครองของผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนแต่ละคน การครอบครองเครื่องกระสุนปืนของกลางจึงไม่ต้องมีใบอนุญาตอีก การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
พิพากษายืน.

Share