แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นคนต่างด้าวสัญญาแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ และการตั้งตัวแทนถือกรรมสิทธิ์แทนบุคคลต่างด้าว มีวัตถุประสงค์ขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ. 2497 เป็นโมฆะ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแก่โจทก์ที่ 2, 3 ส่วนละเท่า ๆ กัน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาว่าสัญญาแบ่งทรัพย์สินเอกสารหมาย จ.6 และหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์เอกสารหมาย จ.9 เป็นโมฆะหรือไม่ สัญญาแบ่งทรัพย์สินเอกสารหมาย จ.6 ข้อ 2 ความว่าหุ้นส่วนทั้งหมดยินยอมที่จะให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วนออกไปดังนี้
1) หุ้นส่วนทุกคนตกลงแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 10488, 10489 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง คือตึกเลขที่ 1491-1493 อยู่ที่ถนนเจริญกรุง ตำบลบางรักอำเภอบางรัก จังหวัดกรุงเทพมหานคร ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่ 1 แต่ผู้เดียวโดยเด็ดขาด
ส่วนหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์เอกสารหมาย จ.9 ข้อ 2 ข้อ 3 ความว่าโจทก์ที่ 1 ประสงค์ให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 และจำเลยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดดังกล่าว คือที่ดินโฉนดที่ 10488 และ 10489 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง โจทก์ที่ 2ที่ 3 และจำเลยจึงจัดการจดทะเบียนใส่ชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เป็นการถือกรรมสิทธิ์แทนโจทก์ที่ 1 ผู้เป็นบิดาเท่านั้นข้อ 3 หากโจทก์ที่ 1 ประสงค์จะให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 และจำเลยกระทำการใดเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวไม่ว่าโดยทางใดทางหนึ่ง โจทก์ที่ 2 ที่ 3 และจำเลยจะต้องจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์ของโจทก์ที่ 1 ผู้เป็นบิดาทันที
ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์ที่ 1 เป็นคนต่างด้าวสัญญาแบ่งทรัพย์ท้ายฟ้องตามเอกสารหมาย จ.6 เป็นสัญญาแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นคนต่างด้าวเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงต์อันขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ. 2497 มาตรา 86,111 ส่วนสัญยารับรองกรรมสิทธิ์ท้ายฟ้องตามเอกสารหมาย จ.9 เป็นการตั้งตัวแทนให้ถือกรรมสิทธิ์แทนบุคคลต่างด้าวอันมีวัตถุประสงค์ขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 113สัญญาท้ายฟ้องตามเอกสารหมาย จ.6 จ.9 จึงเป็นโมฆะ ไม่อาจบังคับตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์ คดีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นเรื่องราคาที่ดินและตึกแถวพิพาทต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลเห็นสมควรให้เป็นพับ”