แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องหลาวหาฐานพาของหนีภาษีเข้ามา จะพิจารณาลงโทษนำของ ผ่านด่านภาษีโดยไม่ถูกต้องด้วยไม่ได้ ฎีกาที่กล่าวว่าจำเลยน่าจะมีผิดนั้น ไม่เป็นข้อฎีกา
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวได้ลอยเข้ามาในพระราชอาณาจักร์แลได้มอบนำช้างเข้ามาด้วย ๔ เชือกโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานและมิได้แจ้งต่อเจ้าพนักงาน เพื่อจดทะเบียนสัตว์พาหนะกับจำเลยได้มอบนำช้าง ๔ เชือกนี้มาโดยยังมิได้เสียภาษี แลหลีกเลี่ยงมิให้เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจเรียกเก็บภาษีตามกฎหมาย
ศาลขั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตาม พ .ร . บ. คนเข้าเมือง พ.ร.บ. สัตว์พาหนะ และ พ. ร. บ. ศุลกากร พ.ศ. ๒๔๒๙ ประกอบด้วย พ. ร. บ. ศุลกากร พ. ศ. ๒๔๗๘
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก่ให้ลงโทษตาม พ. ร. บ. ป้องกันโรคระบาดปสุสัตว์แลสัตว์พาหนะ ส่วนข้อหาตาม พ. ร. บ. ภาษีศุลกากรนั้นให้ยกเสีย
โจทก์ฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าช้างของกลางเข้าอยู่ในข้อยกเว้นตาม พ. ร. บ. พิกัดภาษีศุลกากร พ. ศ. ๒๔๗๘ ภาค ๒๙ แระเภท ๑๕๘ นั้น เห็นว่าน่าจะรวมถึงช้างด้วย แลว่าตามฟ้องโจทก์ฟังได้เป็นทำนองเดียวว่า ” ยังมิได้ผ่านด่านภาษีศุลกากร ฯลฯ ” จึงลงโทษจำเลยตาม พ. ร. บ. ภาษีศุลกากรได้
ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาโจทก์ไม่มีข้อความยืนยันว่า จำเลยมีความผิดฐานหลีกเลี่ยงหนีภาษี แลเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์มุ่งหมายอย่างเดียวว่าจำเลยนำเข้ามาโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหนีภาษี หามิความมุ่งหมายที่จะกล่าวหาในเรี่องนำของผ่านด่านภาษีโดยไม่ถูกต้องไม่จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยในฐานนี้ ตาม ม.๑๙๒ วรรค ๓ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญา จึงพิพากษายกฎีกาโจทก์