คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยโดยกล่าวว่าจำเลยเคยต้องโทษมาดังใบแดงแจ้งโทษ+++ฟ้องนั้น ไม่นับว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาล+++ฟ้องให้จำเลยฟังแม้ไม่ได้อ่านใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องให้จำเลยฟังก็ถือว่าได้ปฏิบัติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.172 เมื่อโจทก์ไม่นำพะยานมาสืบศาลก็ฟังข้อเท็จจริงเท่าที่จำเลยรับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิด พ.ร.บ.ฝิ่น และว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแล้วตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง ขอให้ลงโทษแลเพิ่มโทษแลเมื่อพ้นโทษแล้วให้ส่งจำเลยไปอยู่ต่างจังหวัดตามเดิม
จำเลยให้การรับสารภาพ และว่าเวลานี้กำลังต้องโทษซึ่งทางราชการกำหนดเขตต์ให้อยู่ตามคำสั่งศาล
ศาลล่างลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ฝิ่น แต่ไม่เพิ่มโทษ
ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนโดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้รับว่าต้องโทษตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง และฟังไม่ได้ว่าใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง และฟังไม่ได้ว่าใบแดงนั้นเป็นใบแจ้งโทษสำหรับจำเลย แต่มีผู้พิพากษาแย้งว่าศาลเดิมไม่ได้ถามคำให้การจำเลยให้ครบถ้วนตามข้อหาตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.๑๗๒ ควรย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์โยงไปหารายละเอียดในใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องศาลรับเพิ่มโทษได้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมแต่เป็นเรื่องที่จะต้องพิศูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป การที่ศาลอ่านฟ้องให้จำเลยฟังเท่าที่มีในฟ้อง มิได้อ่านใบแดงแจ้งโทษด้วยโจทก์ก็อยู่ ถ้าสงสัยก็ควรแถลงหรือร้องเรียนขึ้นหรือนำพะยานมาสืบ คดีนี้ถือได้ว่าศาลได้ปฏิบัติตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๗๒ แล้ว ส่วนการที่จะเพิ่มโทษจำเลยได้หรือไม่นั้น ศาลก็ต้องฟังตามคำรับของจำเลยซึ่งตามคำรับของจำเลยไม่พอฟังเพิ่มโทษได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share