แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่ศาลจะบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังได้ ต้องเป็นกรณีที่ความผิดที่ถูกลงโทษในคดีหลังได้กระทำภายหลังที่ศาลพิพากษาในคดีก่อน ถ้าได้กระทำความผิดไว้ก่อนแต่มาถูกศาลพิพากษาภายหลังที่รอการลงโทษไว้แล้วก็นำโทษที่รอไว้มาบวกเข้าไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 จำคุก 2 เดือน ให้นำโทษในคดีหมายเลขแดงที่ 1323/2532ของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่รอการลงโทษไว้ มาบวกกับโทษในคดีนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 รวมจำคุก 8 เดือน จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่นำโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1323/2532 ของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ว่า จะนำโทษจำคุกในคดีหมายเลขแดงที่ 1323/2532 ของศาลจังหวัดนราธิวาสที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษจำเลยในคดีนี้ได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 บัญญัติว่า ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาได้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลังหรือบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังแล้วแต่กรณีเห็นว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวการที่ศาลจะบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลังได้นั้นต้องเป็นกรณีที่ความผิดที่ถูกลงโทษในคดีหลังนี้ได้กระทำภายหลังที่ศาลพิพากษาในคดีก่อน ถ้าได้กระทำความผิดไว้ก่อน แต่มาถูกศาลพิพากษาภายหลังที่รอการลงโทษไว้แล้วก็นำโทษที่รอไว้มาบอกเข้าไม่ได้ดังนั้นเมื่อได้ความว่าศาลจังหวัดนราธิวาสพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 1323/2532 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2532 แต่คดีนี้จำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างวันที่ 26 เมษายน 2531 ถึงวันที่ 8กันยายน 2531 ก่อนวันที่ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษาจึงไม่มีอำนาจนำโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1323/2532 ของศาลจังหวัดนราธิวาสที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ได้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน