แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ที่พิพาทซึ่งเป็นที่มือเปล่าจะเป็นของโจทก์ และโจทก์ได้ฝากหรือให้จำเลยเช่าต่อมาก็ดี เมื่อโจทก์จะเวนคืน จำเลยได้ตั้งตัวเป็นปรปักษ์ โต้เถียงว่าที่พิพาทตกเป็นสิทธิแก่จำเลยแล้วโดยสามีโจทก์ขายให้ดังนี้ การครอบครองในตอนนี้เป็นการครอบครองปรปักษ์ และเป็นการแย่งสิทธิครอบครองของโจทก์ซึ่งโจทก์ทราบได้ดีแล้ว แต่ไม่ได้จัดการฟ้องคดีเสียในกำหนดหนึ่งปีจึงหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองของตนได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับนาพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของโจทก์ เดิมฝากจำเลยทั้งสองไว้ ภายหลังให้เช่า บัดนี้โจทก์จะเอาคืน จำเลยไม่ยอมให้ จำเลยที่ 1 ให้การว่า นาพิพาทตอนที่จำเลยครอบครอง โจทก์ขายให้จำเลยมา 7 ปีแล้ว จำเลยที่ 2 ให้การว่านาพิพาทตอนที่จำเลยครอบครองเป็นนามรดกได้แก่นางบุญภรรยาจำเลยนางบุญตาย นาส่วนนี้จึงตกเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านาพิพาทที่จำเลยที่ 1 ครอบครองเป็นของโจทก์จึงห้ามมิให้จำเลยที่ 1 เกี่ยวข้อง ส่วนนาพิพาทที่จำเลยที่ 2 ครอบครองไม่ใช่นาของโจทก์ให้ยกฟ้องเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 เสีย ศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมด
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะที่นาที่จำเลยที่ 1 ครอบครอง
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ทราบแล้วว่าจำเลยไม่ยอมคืนนาพิพาทให้โจทก์ โดยอ้างว่า ผัวโจทก์ขายให้จำเลยแล้วนับแต่นั้นมาจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเกิน 1 ปีแล้ว แม้เดิมที่พิพาทเป็นของโจทก์ และโจทก์ได้ฝากหรือให้นายแจ่มจำเลยเช่าต่อมาก็ดีปรากฏว่าเมื่อโจทก์จะเอาคืน จำเลยโต้เถียงว่านาพิพาทตกเป็นสิทธิแก่จำเลยแล้ว โดยอ้างว่าสามีโจทก์ขายให้ การครอบครองของจำเลยในตอนนี้เป็นการครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของโดยเปิดเผย และเป็นการแย่งสิทธิครอบครองของโจทก์ ซึ่งโจทก์ทราบดีแล้ว และหาได้จัดการฟ้องร้องคดีเสียภายในกำหนดหนึ่งปีไม่ จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองได้ เพราะเป็นที่นามือเปล่าซึ่งเจ้าของมีสิทธิการครอบครองเท่านั้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
พิพากษายืน