คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6106/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะเป็นฝ่ายก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนตบหน้า ร. ในบริเวณงาน แต่ก็เลิกกันไปแล้ว จำเลยเดินกลับบ้าน ผู้เสียหายเดินตามไปทันบนสะพานซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณงาน 500 เมตร ถือได้ว่าเหตุการณ์ขาดตอนไปแล้ว ทั้งผู้เสียหายไม่ใช่ผู้ที่ถูกจำเลยทำร้ายผู้เสียหายจะทำร้ายจำเลย จำเลยมีสิทธิป้องกันได้ ผู้เสียหายวิ่งเข้ามาใกล้จะถึงตัวจำเลยโดยถืออาวุธมีดปลายแหลมทั้งตัวมีดและด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต เพื่อทำร้ายจำเลย เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แม้จำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงไป 4 นัด ก็เป็นการกระทำเพื่อยับยั้งผู้เสียหายที่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ จึงเป็นการกระทำโดยป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีและพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงผู้เสียหาย 4 นัด โดยเจตนาฆ่าแต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของผู้เสียหาย และแพทย์รักษาได้ทันท่วงที ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 288พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (ฉบับที่ 44)ข้อ 3, 6, 7
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (ฉบับที่ 44) ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 7ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุก 12 ปีฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 12 ปี 6 เดือนชั้นจับกุมจำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นและชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบรับว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจริงเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 4 ปี 8 เดือน ข้อหานอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี ในความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ และให้ปรับจำเลยในความผิดฐานนี้ 3,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม คงปรับ 2,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ผู้เสียหายวิ่งเข้ามาใกล้จะถึงตัวจำเลยโดยถืออาวุธมีดปลายแปลง ทั้งตัวมีดและด้ามยาวประมาณ 1 ฟุตนั้น เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แม้จำเลยจะเป็นฝ่ายก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนตบหน้า ร. ในบริเวณงาน แต่ก็เลิกกันไปแล้ว จำเลยเดินกลับบ้าน ผู้เสียหายจึงเดินตามไปทันบนสะพานเมื่ออยู่ห่างจากบริเวณงานประมาณ 500 เมตร ถือได้ว่าเหตุการณ์ขาดตอนไปแล้วทั้งผู้เสียหายไม่ใช่ผู้ที่ถูกจำเลยทำร้าย จำเลยมีสิทธิป้องกันได้แม้จำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงไป 4 นัด ก็เป็นการกระทำเพื่อยับยั้งผู้เสียหายที่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ จึงเป็นการกระทำโดยป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษายืน.

Share