แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมียน้อยโกรธเมียหลวงเพราะเมียหลวงพูดถ้อยคำบาดหู จึงเอามีดฟันเมียหลวงไปในทันทีทันใดนั้น โดยหมายฟันตรงแขนเมียหลวง แต่เมียหลวงเบนหนี มีดที่ฟันลงจึงไปถูกกลางศีร์ษะเด็หญิงอายุ 7 เดือนที่เมียหลวงอุ้มพาดตักและแขนเข้า กะโหลกศีร์ษะแตกตาย ดังนี้ วินิจฉัยว่าหายเมียหลวงไม่เบนหนี มีดที่ฟันก็จะถูกแขนเมียหลวงและเมียหลวงก็ไม่ถึงตาย ฉะนั้นเมื่อเกิดพลาดไปถูกเด็กจนถึงตายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ชี้ขาดว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้ คงเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจใช้มีดโต้ฟันนางไสว มูลพฤกษ์โดยเจตนาฆ่าให้ตาย แต่นางไสวหลบเสียทัน มีดที่จำเลยฟันจึงพลาดไปถูกศีร์ษะเด็กหญิงจำรูญอายุ ๗ เดือนบุตรนางไสวซึ่งกำลังนอนอยู่บนตักนางไสว มีบาดเจ็บสาหัสและขาดใจตายเพราะพิษบาดแผลในวันเวลานั้นเอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา ๒๔๙ จำคุก ๑๕ ปี ลดตามมาตรา ๕๙, ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๖ ปี
โจทก์ฎีกาว่าจำเลยควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องที่เกิดทำร้ายกันขึ้น ก็เนื่องมาจากนางไสว มูลพฤกษ์พูดถ้อยคำบาดหูจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันทันที ศาลเห็นว่า เพียงคำพูดของนางไสว มูลพฤกษ์ยังไม่พอจะแสดงว่ามีน้ำหนักรุนแรงถึงต้องคิดเอาชีวิตกัน และจำเลยก็หมายฟันนางไสว มูลพฤกษ์ ๆ เบนหนี พอดีมีดที่จำเลยฟันไปถูดกลางศีร์ษะเด็กหญิงจำรูญที่นางไสว มูลพฤษ์อุ้มพาดตักและแขนเข้า ถ้านางไสวไม่เบนหนีก็น่าจะถูกแขนนางไสวและนางไสวก็ไม่ถึงตาย ตามรูปคดียังไม่พอจะชี้ขาดว่าเป็นผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา