แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ+จึงตาย จำเลยที่ 1 เป็นทายาทของผู้ตาย ได้ขอโอนรับมฤดกที่พิพาท และได้ขายให้จำเลยที่ 2 โดย+สุจริต จึงขอให้ศาลแสดง+โจทก์มีกรรมสิทธิในที่พิพาท และถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนด
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชะนะคดีในตามฟ้อง
ศาลอุทรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิหือไม่ แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริต พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่า สัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิโดยครอบครองปรกักษ์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ผู้ตายได้ยกที่พิพากให้โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิแล้วผู้ตายจึงตาย จำเลยที่ ๑ เป็นทายาทของผู้ตายได้ขอโอนรับมฤดก แล้วขายให้จำเลยที่ ๒ ๆ รับซื้อไปโดยไม่สุจริต จึงขอให้ถอนชื่อจำเลยที่ ๒ ออกจากโฉนดที่พิพาท
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องทุกประการ พิพากษาให้ถอนชื่อจำเลยที่ ๒ ออกจากโฉนด จำเลยทั้งสองอุทธณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิแล้วหรือไม่ แต่ชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์สืบไม่สมข้อที่ว่า จำเลยที่ ๒ ได้รับซื้อไปโดยไม่สุจริต จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในเรื่องที่ว่า โจทก์ได้สืบสมฟ้องแล้วว่า จำเลยที่ ๒ รับซื้อไปโดยไม่สุจริต
ศาลฎีกาได้กลับไปวินิจฉัยข้อเท็จจริงในเรื่องที่ว่า ผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองมาจนได้กรรมสิทธิแล้วหรือไม่ แล้วฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายหาได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์มาไม่ โจทก์จึงไม่มีกรรมสิทธิในที่ดินรายนี้ เมื่อโจทก์ไม่มีกรรมสิทธิแล้ว ที่ดินย่อมตกเป็นของจำเลยที่ ๑ ผู้เป็นทายาท ส่วนข้อที่ว่าจำเลยที่ ๒ รับซื้อไว้โดยสุจริตหรือไม่ เมื่อฟังว่าจำเลยที่ ๑ มีกรรมสิทธิในที่ดินรายนี้โดยชอบแล้ว ก็ไม่มีปัญาในข้อนี้ต่อไป
พิพากษายืน