คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2549

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารพิพาท และให้จำเลยชำระเงิน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 30,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารพิพาท จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกฟ้องของโจทก์ แม้อุทธรณ์ของจำเลยจะมีคำขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในส่วนที่ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยกับค่าเสียหายแก่โจทก์นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปด้วย แต่คำขอในส่วนนี้มิใช่เป็นคำขอให้ชำระค่าเสียหายหรือเงินอื่น ๆ บรรดาที่ให้จ่ายมีกำหนดเป็นระยะเวลาในอนาคตตามตาราง 1 (4) ท้าย ป.วิ.พ. ที่ให้คิดค่าขึ้นศาลหนึ่งร้อยบาทเป็นอีกส่วนหนึ่ง เพราะเป็นคำขอที่มีผลต่อเนื่องจากคำขอที่ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยและบริวารออกจากอาคารพิพาทอันเป็นคำขอประธานเท่านั้น อุทธรณ์ของจำเลยในส่วนนี้จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลในอนาคตเป็นอีกส่วนหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารเลขที่ 6/5-6 ให้ชำระค่าเช่าที่ค้างจำนวน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้ชำระค่าเสียหายเดือนละ 40,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะออกจากอาคารพิพาทจำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารพิพาทเลขที่ 6/5-6 ถนนกลางเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จและให้ชำระค่าเสียหายเดือนละ 30,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารพิพาทกับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างพิจารณา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลสำหรับคำขอที่เป็นอนาคตในส่วนของดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ กับค่าเสียหายนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกจากอาคารพิพาท จำเลยไม่เสียค่าขึ้นศาลดังกล่าวภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่าคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ที่ถือว่าจำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์เพราะเพิกเฉยไม่ชำระค่าขึ้นศาลในอนาคตสำหรับดอกเบี้ยกับค่าเสียหายนับถัดจากวันฟ้องตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 เป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์หรือไม่ และหากศาลอุทธรณ์ภาค 4 เห็นว่าจำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์ก็ชอบที่จะจำหน่ายคดีเฉพาะคำขอในส่วนที่จำเลยมิได้ชำระค่าขึ้นศาลในอนาคตดังกล่าวเท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จำหน่ายคดีตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งคดีจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคาพิพาทเลขที่ 6/5-6 ถนนกลางเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น และให้จำเลยชำระเงินจำนวน 630,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 30,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารพิพาท โดยมีคำขอมาในตอนท้ายอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกฟ้องของโจทก์ คำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยในส่วนที่ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับให้จำเลยออกจากอาคารพิพาทกับที่ให้จำเลยชำระค่าเสียหายก่อนฟ้องจำนวน 630,000 บาท เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้และอันอาจคำนวณราคาเป็นเงินได้รวมอยู่ด้วยอุทธรณ์ของจำเลยในส่วนนี้ จำเลยก็ได้เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ 630,000 บาท ตามตาราง 1 (3) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ชอบที่จะรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณา แม้อุทธรณ์ของจำเลยจะมีคำขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในส่วนที่ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยกับค่าเสียหายแก่โจทก์นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปก็ตาม แต่คำขอในส่วนนี้ก็หาใช่เป็นคำขอให้ชำระค่าเสียหายหรือเงินอื่น ๆ บรรดาที่ให้จ่ายมีกำหนดเป็นระยะเวลาในอนาคตตามตาราง 1 (4) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ให้คิดค่าขึ้นศาลหนึ่งร้อยบาทเป็นอีกส่วนหนึ่งแต่อย่างใดไม่ เพราะเป็นคำขอที่มีผลต่อเนื่องจากคำขอที่ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยและบริวารออกจากอาคารพิพาทอันเป็นคำขอประธานเท่านั้น อุทธรณ์ของจำเลยในส่วนนี้จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลในอนาคตเป็นอีกส่วนหนึ่งตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกให้จำเลยชำระเพิ่มเติม ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งว่า การที่จำเลยไม่ยอมชำระค่าขึ้นศาลในอนาคตเพิ่มเติมดังกล่าวถือว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดอันเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว ฎีกาของจำเลยข้ออื่นไม่จำต้องวินิจฉัย”
พิพากษายกคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยแล้วมีคำพิพากษาตามรูปคดีค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาในชั้นนี้ให้รวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่.

Share