คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5048/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรมธรรม์มีคำจำกัดความของคำว่า อุบัติเหตุ หมายความถึงเหตุการณ์อันเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และทำให้เกิดผลที่บุคคลผู้เอาประกันภัยมิได้มีเจตนาหรือมุ่งหวัง การที่โจทก์วิ่งอย่างเร็วแล้วหมุนตัวกลับทางด้านซ้าย และบิดเอี้ยวตัวตรงหัวเข่าจากการซ้อมกีฬาบาสเกตบอล แม้หัวเข่าของโจทก์จะไม่กระแทกกับพื้น โจทก์ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุนั้น เหตุดังกล่าวจึงถือเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และแม้การบาดเจ็บของโจทก์จะเกิดขึ้นภายในร่างกายของโจทก์ขณะวิ่ง แต่การบาดเจ็บของโจทก์เพิ่งเกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าว และเป็นเรื่องที่โจทก์มิได้เจตนาหรือมุ่งหวัง ย่อมถือว่าเป็นอุบัติเหตุตามความหมายในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามข้อตกลงในกรมธรรม์ประกันภัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 320,562 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 283,370 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 320,562 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 283,370 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยรับกันในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น และไม่โต้แย้งกันในชั้นฎีกาฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้รับประกันอุบัติเหตุในการเดินทางไปต่างประเทศของโจทก์ตามกรมธรรม์การประกันภัย ในระหว่างระยะเวลาประกันภัย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542 ขณะที่โจทก์ศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนได้ฝึกซ้อมกีฬาบาสเกตบอลในสนามกีฬาซึ่งอยู่ในร่ม พื้นสนามปูปาเกต์ ครูผู้ฝึกสอนให้โจทก์ซ้อมวิ่งระหว่างขอบสนามด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง เมื่อโจทก์วิ่งไปถึงขอบสนามอีกด้านหนึ่ง ขณะหมุนตัวกลับทางด้านซ้าย ทำให้กระดูกสะบ้าหัวเข่าข้างซ้ายเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม ได้รับบาดเจ็บ โจทก์ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวน 283,370 บาท โจทก์ได้จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไปแล้วและมีหนังสือขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวตามกรมธรรม์ประกันภัย แต่จำเลยไม่ยอมชดใช้ มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวให้แก่โจกท์ตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาอ้างว่า การที่โจทก์วิ่งฝึกซ้อมแล้วเกิดบาดเจ็บที่หัวเข่าข้างซ้าย โดยไม่ได้กระแทกกับพื้นเป็นเหตุอันเกิดขึ้นภายในร่างกายไม่ใช่เหตุอันเป็นปัจจัยภายนอกนั้น เห็นว่า การที่โจทก์วิ่งอย่างเร็วแล้วหมุนตัวกลับทางด้านซ้าย บิดเอี้ยวตัวตรงหัวเข่าจากการซ้อมกีฬาบาสเกตบอลดังกล่าวแม้หัวเข่าของโจทก์จะไม่กระแทกกับพื้น โจทก์ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุนั้น เหตุดังกล่าวจึงถือเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แม้การบาดเจ็บของโจทก์จะเกิดขึ้นภายในร่างกายของโจทก์ขณะวิ่ง ตามข้ออ้างของจำเลยก็ตาม แต่การบาดเจ็บของโจทก์ดังกล่าวก็เพิ่งเกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าว และเป็นเรื่องที่โจทก์มิได้เจตนาหรือมุ่งหวัง ย่อมถือว่าเป็นอุบัติเหตุตามความหมายในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในค่ารักษาพยาบาลให้แก่โจทก์ตามข้อตกลงในกรมธรรม์การประกันภัย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share