คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ทราบนัดแล้วไม่มาศาลในวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ โดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ถือได้ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาตามบทบัญญัติมาตรา 197 วรรค 2 แห่ง ป.วิ.พ.เมื่อจำเลยมิได้ขอให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลชั้นต้นย่อมต้องสั่งจำหน่ายคดีนั้นเสียจากสารบบความ ตามมาตรา 201 ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดที่ผิดระเบียบ จึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์เพราะไม่มีการพิจารณาที่ผิดระเบียบอย่างใดที่จะต้องเพิกถอน ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอไต่สวนของโจทก์จึงชอบแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยทั้งสี่ให้การต่อสู้คดี
ศาลภาษีอากรกลางนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 14 สิงหาคม 2529เวลา 9 นาฬิกา ถึงวันนัดศาลภาษีอากรกลางได้รอโจทก์อยู่จนถึงเวลา 9.35 นาฬิกา โจทก์และพยานโจทก์ไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี ศาลภาษีอากรกลางจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและสอบจำเลยแล้ว จำเลยแถลงไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไปจึงสั่งจำหน่ายคดี
โจทก์ได้ยื่นคำร้องในวันเดียวกันนั้นเวลา 14.15 นาฬิกาอ้างว่าเข้าใจเวลานัดผิดไปเป็นเวลา 13.30 นาฬิกา จึงได้มาศาลในเวลาดังกล่าวและทราบว่าศาลได้สั่งจำหน่ายคดีแล้ว โจทก์มิได้จงใจขาดนัด ขอให้พิจารณาใหม่ ศาลภาษีอากรกลางเห็นว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลพิจารณาใหม่ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 สั่งยกคำรก้อง ค่าคำร้องเป็นพับ โจทก์จึงยื่นคำร้องลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2529 อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา และที่โจทก์ขอให้พิจารณาคดีใหม่นั้นเป็นคำขอที่ผิดไป จึงขอใหม่ให้ศาลสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบเสียทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้เพราะศาลเข้าใจว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา ซึ่งความจริงโจทก์ไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องหรือเพิกถอนคำสั่งที่ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุจะทำการไต่สวนหรือเพิกถอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ได้ ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลภาษีอากรกลางสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณานั้นเป็นเพราะศาลภาษีอากรกลางเข้าใจผิดว่าเป็นการขาดนัดโดยจงใจจึงเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ สมควรที่จะไต่สวนคำร้องของโจทก์และมีคำสั่งเพิกถอนเสีย ศาลฎีกาเห็นว่า ศากลภาษีอากรกลางหาได้เข้าใจผิดอย่างใดไม่กล่าวคือ การที่ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณานั้น ก็เพราะว่าโจทก์ได้ทราบนัดแล้วไม่มาศาลในวันเวลานัดสืบพยานโจทก์ โดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ไม่ว่าจะเป็นประการใดก็ตามถือได้ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาตามบทบัญญัติ มาตรา 197วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อจำเลยมิได้ขอให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป ศาลภาษีอากรกลางย่อมต้องสั่งจำหน่ายคดีนั้นเสียจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 201 ศาลภาษีอากรกลางมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดที่ผิดระเบียบจึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์เพราะไม่มีการพิจารณาที่ผิดระเบียบอย่างใดที่จะต้องเพิกถอน คำสั่งของศาลภาษีอากรกลางชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share