แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลี้ยวรถโดยไม่ได้ให้สัญญาณเลี้ยวพยานโจทก์เบิกความแต่เพียงว่าไม่เห็นรถคันที่จำเลยขับให้สัญญาณเลี้ยว จำเลยเบิกความว่าขณะเลี้ยวจำเลยได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่าตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก เมื่อจะเลี้ยวรถจะต้องให้สัญญาณแตรเสียก่อนจึงฟังว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณแตรก่อนเลี้ยวรถ ทั้งๆ ที่พยานโจทก์มิได้เบิกความถึงเรื่องสัญญาณแตร และจำเลยก็มิได้เบิกความรับเช่นนั้น ดังนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือพยานหลักฐานในสำนวน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์เก๋งเลี้ยวซ้ายด้วยความประมาทโดยไม่ให้สัญญาณเลี้ยว ตัดหน้ารถยนต์ประจำทางเฉี่ยวขอบไฟหน้ารถของรถประจำทางได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยให้การ (ที่ถูกน่าจะเป็นเบิกความ) ว่า ขณะเลี้ยวได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแล้ว แต่พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2477 มาตรา 13, 32 และ 33 มีใจความว่า เมื่อจะเลี้ยวรถหรือผ่านรถประจำทางที่จอดอยู่ ต้องให้สัญญาณแตรเสียก่อน ในระยะที่ผู้ใช้ทางในที่นั้นจะมีเวลาตามสมควรที่จะแลเห็นหรือได้ยินสัญญาณนั้นล่วงหน้าได้ เหตุนี้ เห็นได้ว่าจำเลยได้ฝ่าฝืนกฎหมายโดยเลี้ยวรถไม่ให้สัญญาณแตรเสียก่อน แม้ฟังว่าจำเลยได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวแต่คนขับรถเมล์นั่งสูงกว่ารถยนต์ย่อมมองไม่เห็นไฟเลี้ยวของรถจำเลยได้ถนัด ถือว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณให้ผู้ขับรถเมล์ได้มีเวลาพอสมควรที่จะแลเห็นล่วงหน้า พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29, 32, 66; (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508มาตรา 7, 13 ให้ปรับจำเลย 500 บาท ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์ประมาทโดยไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวไม่หมายถึงประมาทอย่างอื่น เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยประมาทอย่างอื่นไม่ตรงกับฟ้องก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ที่ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณแตรก่อนเลี้ยว เป็นการวินิจฉัยคดีผิดจากฟ้องและคำพยานโจทก์ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณเลี้ยวซ้ายได้ความจากคำเบิกความของนายปิ๋วคนขับรถเมล์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานโจทก์ปากเดียวว่า นายปิ๋วไม่เห็นรถคันที่จำเลยขับให้สัญญาณไฟเลี้ยวคำเบิกความของนายปิ๋วดังกล่าว นอกจากจะเป็นคำเบิกความที่ไม่ยืนยันว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณเลี้ยวรถแล้ว ยังเป็นคำเบิกความที่เห็นได้อยู่ในตัวว่านายปิ๋วไม่ได้เบิกความถึงการให้สัญญาณเสียงแตรอีกด้วย ทั้งจำเลยก็มิได้เบิกความรับว่าไม่ได้ให้สัญญาณแตร ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยคดีนี้ว่าจำเลยไม่ให้สัญญาณแตรก่อนเลี้ยวรถ จำเลยย่อมมีความผิดตามฟ้อง จึงเป็นคำวินิจฉัยนอกเหนือพยานหลักฐานในสำนวน จะลงโทษจำเลยเพราะเหตุนี้ไม่ได้
พิพากษายืน