แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างมารดาโจทก์กับจำเลยที่ 1 และสัญญาจำนองที่ดินพิพาทระหว่างมารดาโจทก์กับจำเลยที่ 3 และระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 และใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของในที่ดินพิพาทตามส่วน แต่ที่ดินพิพาทก่อนทำนิติกรรมดังกล่าวมีชื่อมารดาโจทก์ซึ่งมิได้ถูกฟ้องหรือเป็นคู่ความในคดีด้วยเป็นเจ้าของ ศาลไม่อาจพิจารณาพิพากษาตามคำขอให้มีผลกระทบกระเทือนสิทธิของมารดาโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีได้ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
ย่อยาว
โจทก์ทั้งหกฟ้องว่า ที่ดิน น.ส.๓ ก.เลขที่ ๓๔๐๒, ๓๖๐๒ ตำบลนามเขือ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และที่ดิน น.ส.๓ก. เลขที่ ๒๙๙๗ ตำบลสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ครึ่งหนึ่งเป็นทรัพย์มรดกของบิดาโจทก์ทั้งหกตกได้แก่โจทก์ทั้งหกกับมารดาโจทก์ทั้งหกคนละส่วนเท่า ๆ กัน จำเลยที่ ๒ เป็นผู้จัดการและเป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๓ มารดาโจทก์ทั้งหกนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองกับจำเลยที่ ๓ และขายที่ดินแก่จำเลยที่ ๑ โดยโจทก์ทั้งหกไม่รู้เห็นยินยอมด้วย ขอให้พิพากษาว่า ที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๓๔๐๒,๓๖๐๒ ตำบลนามะเขือ อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และที่ดินน.ส.๓ ก. เลขที่ ๒๙๙๗ ตำบลสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสิทธุ์เป็นมรดกของบิดาโจทก์ทั้งหกครึ่งหนึ่งและตกเป็นของโจทก์ทั้งหก๖ ใน ๗ ส่วน ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องและเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๒๙๙๗ ระหว่างมารดาโจทก์ทั้งหกกับจำเลยที่ ๑ เฉพาะที่เกี่ยวกับที่ดินส่วนของโจทก์ทั้งหกกับเพิกถอนนิติกรรมจำนองเฉพาะที่เกี่ยวกับที่ดินส่วนของโจทก์ทั้งหกที่จำเลยที่ ๑ และมารดาโจทก์ทั้งหกจำนองไว้กับจำเลยที่ ๓ แล้วใส่ชื่อโจทก์ทั้งหกเป็นเจ้าของใน น.ส.๓ ก. ดังกล่าวเฉพาะที่ดินส่วนที่เป็นของโจทก์ทั้งหก
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ ๒เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว จำเลยที่ ๓รับจำนองที่ดินไว้โดยสุจริต เปิดเผยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย มีการประกาศก่อนการจดทะเบียนจำนองและไม่มีผู้ใดคัดค้าน โจทก์ทั้งหกไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งหกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งหกฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ทั้งหกฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทตา น.ศ.๓ ก. เลขที่ ๒๙๙๗ ระหว่าง มารดาโจทก์ทั้งหกกับจำเลยที่ ๑ และสัญญาจำนองที่ดินพิพาทตาม น.ส.๓ ก.เลขที่ ๓๔๐๒ เลขที่ ๓๖๐๒ และเลขที่ ๒๙๙๗ ตามฟ้องระหว่างมารดาโจทก์ทั้งหกกับจำเลยที่ ๓ และระหว่างจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๓แล้วใส่ชื่อโจทก์ทั้งหกเป็นเจ้าของใน น.ส.๓ ก. ดังกล่าวตามส่วนพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่ดินพิพาทก่อนทำนิติกรรมดังกล่าวมีชื่อมารดาโจทก์ทั้งหกซึ่งมิได้ถูกฟ้องหรือเป็นคู่ความในคดีด้วยเป็นเจ้าของศาลไม่อาจพิจารณาพิพากษาตามคำขอให้มีผลกระทบกระเทือนสิทธิของมารดาโจทก์ทั้งหกซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีได้ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยคดีให้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นฟ้องด้วยในส่วนนี้ คงเห็นฟ้องด้วยในผลของคดีที่ให้ยกฟ้อง
พิพากษายืน.