คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6034/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยหลอกลวงโจทก์โดยการนำชี้ว่าที่ดินของจำเลยอยู่ติดถนน ทั้ง ๆ ที่จำเลยแบ่งขายที่ดินส่วนที่อยู่ติดถนนให้แก่บุคคลอื่นไปก่อนแล้ว เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อจึงซื้อที่ดินของจำเลย ซึ่งหากโจทก์ทราบว่าที่ดินของจำเลยไม่ติดถนน โจทก์ก็จะไม่ซื้อที่ดินของจำเลย แม้โจทก์จะไม่ได้นำสืบว่าราคาที่ดินที่โจทก์ชำระแก่จำเลยนั้นสูงกว่าราคาที่ดินแปลงที่โจทก์ซื้อมาเท่าใด โจทก์ก็ได้รับความเสียหายเพราะได้ชำระราคาแก่จำเลยโดยหลงเชื่อว่าที่ดินอยู่ติดถนน การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341จำเลยอายุ 73 ปี โจทก์เองก็มีส่วนประมาทอยู่บ้าง พฤติการณ์และเหตุผลแห่งรูปคดีมีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทุจริตหลอกลวงโจทก์โดยการนำชี้ว่าที่ดินของจำเลยอยู่ติดถนน โจทก์หลงเชื่อจึงได้ตกลงซื้อและชำระราคาที่ดินให้จำเลยแล้ว ซึ่งความจริงที่ดินด้านติดถนนจำเลยได้ตัดแบ่งขายให้บุคคลอื่นไปแล้ว การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์เสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 จำเลยมีอายุ 70 ปี แก่ชรามากแล้ว เห็นสมควรลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักให้รับฟังได้ การที่จำเลยหลอกลวงโจทก์โดยการนำชี้ว่าที่ดินของจำเลยอยู่ติดถนน ทั้ง ๆ ที่จำเลยแบ่งขายที่ดินส่วนที่อยู่ติดถนนให้แก่บุคคลอื่นไปก่อนแล้ว เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อจึงซื้อที่ดินของจำเลย ซึ่งหากโจทก์ทราบว่าที่ดินของจำเลยไม่ติดถนน โจทก์ก็จะไม่ซื้อที่ดินของจำเลย แม้โจทก์จะไม่ได้นำสืบว่าราคาที่ดินที่โจทก์ชำระแก่จำเลยนั้นสูงกว่าราคาที่ดินแปลงที่โจทก์ซื้อมาเท่าใดก็ตาม โจทก์ก็ได้รับความเสียหายเพราะได้ชำระราคาที่ดินแก่จำเลยโดยหลงเชื่อว่าที่ดินอยู่ติดถนนดังกล่าวแล้ว การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นอย่างไรก็ดีปรากฏว่าจำเลยอายุ 73 ปีอยู่ในวัยชราแล้ว ทั้งพฤติการณ์แห่งคดีโจทก์เองก็มีส่วนประมาทอยู่บ้าง พฤติการณ์และเหตุผลแห่งรูปคดีจึงมีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยเพื่อให้โอกาสแก่จำเลยสักครั้งแต่เห็นสมควรลงโทษปรับจำเลยอีกโสดหนึ่งด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับจำเลยด้วย 6,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share