แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์เป็นทายาทของ จ. ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ อ. ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับ จ.ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวทำไว้กับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และส. รวมทั้งขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรายการประเภทขายและประเภทจำนองทุกรายการ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ต่อสู้กรรมสิทธิ์และจำเลยที่ 5ต่อสู้ว่าได้รับจำนองที่ดินไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ดังนี้ถ้าโจทก์ชนะคดี โจทก์ย่อมได้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกลับคืนมาเป็นมรดกของ จ. โดยปลอดจำนองด้วย คดีของโจทก์จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาเพิกถอนนิติกรรมการขายที่ดินโฉนดเลขที่3586 ตามฟ้อง ระหว่างนายแพทย์เอื้อมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับนายสมาน และเพิกถอน การจดทะเบียนรายการประเภทขายและประเภทจำนองตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2523 ทุกรายการจนถึงรายการสุดท้าย
จำเลยทั้งห้าให้การโดยจำเลยที่ 5 ขอแก้ไขคำให้การว่าคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์จะต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาหรือทุนทรัพย์ที่พิพาท เมื่อโจทก์ฟ้องอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในวันชี้สองสถาน หลังจากศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้วศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์สินพิพาทหรือมรดกคืนทั้งหมดจำเลยกล่าวแก้ด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ คู่ความทั้งสองฝ่ายกำหนดราคาที่ดินและอาคารพิพาทเป็นเงิน 80,000,000 บาท จึงให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลให้เรียบร้อยก่อนวันสืบพยานโจทก์ ซึ่งต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงว่า คดีนี้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงขอโต้แย้งคำสั่งของศาลที่สั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์และโต้แย้งด้วยว่าโจทก์มิได้รับว่าที่ดินและอาคารพิพาทมีราคา80,000,000 บาท
ครั้นในวันนัดสืบพยานโจทก์ ปรากฏว่าโจทก์ยังมิได้เสียค่าขึ้นศาลตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ศาลชั้นต้นสอบแล้วโจทก์แถลงว่าโจทก์เห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์จึงไม่นำค่าขึ้นศาลมาวางต่อศาลหากศาลเห็นว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์และถือว่าโจทก์ไม่ดำเนินการภายในเวลาที่ศาลกำหนดจะจำหน่ายคดีก็สุดแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร เพื่อที่โจทก์จะใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อไป
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ และได้กำหนดให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาวางศาลให้เป็นที่เรียบร้อยก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อกำหนดดังกล่าว จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาว่าคดีของโจทก์ทั้งสองเป็นคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามฟ้องเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่างนางใจสมาน ศิลาอ่อนเจ้ามรดกกับนายแพทย์เอื้อม ศิลาอ่อน โดยโจทก์ทั้งสองเป็นทายาทผู้รับมรดกของนางใจสมาน ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวระหว่างนายแพทย์เอื้อมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3กับนายสมาน ตั้งถาวรสิริกุลและเพิกถอนการจดทะเบียนรายการประเภทขายและประเภทจำนองตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2523 ทุกรายการจนถึงรายการสุดท้าย จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ต่อสู้กรรมสิทธิ์ส่วนจำเลยที่ 5 ต่อสู้ว่าได้รับจำนองที่ดินดังกล่าวไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ขอให้ยกฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าโจทก์ทั้งสองชนะคดี โจทก์ทั้งสองย่อมได้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทกลับคืนมาเป็นมรดกของนางใจสมานซึ่งโจทก์ทั้งสองเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกโดยปลอดจากจำนองด้วย คดีของโจทก์ทั้งสองจึงเป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์ทั้งสองจะต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง…”
พิพากษายืน.