แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ยายร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของหลาน มีย่าร้องคัดค้านเข้ามา เป็นกรณีพิพาทระหว่างยายกับย่าว่า ใครจะเป็นผู้สมควรจัดการมรดกของหลานนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาตั้งยายเป็นผู้จัดการคนเดียว แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ตั้งย่าเป็นผู้จัดการร่วมกับยายอีกคนหนึ่งด้วย ดังนี้ ผู้ร้องฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลฎีกาตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการแต่คนเดียวได้ ไม่ต้องห้าม
ย่อยาว
คดีนี้ ในชั้นเดิมผู้ร้อง ซึ่งเป็นยายของเด็กได้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของเด็ก มีย่าของเด็กร้องคัดค้านเข้า จึงมีข้อพิพาทระหว่าง ยายกับย่าของเด็กว่าใครจะเป็นผู้สมควรจัดการมรดกรายนี้
ศาลแพ่งพิพากษาตั้งนางไสว ผู้ร้องเป็นผู้จัดการคนเดียว
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้แต่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการร่วมกับผู้ร้องด้วยอีกคนหนึ่ง
ผู้ร้องฎีกาขอให้ผู้ร้องจัดการอยู่คนเดียว
ศาลฎีกาเห็นว่า ทรัพย์มรดกที่จะจัดการรายนี้มีเงินสดที่ฝากคลังออมสิน แหวน ๓ วง สร้อย ๓ เส้น รถจักรยาน จักรเย็บผ้ากับตัวบ้านหลังหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นเพียงการเก็บรักษา มิต้องมีการจัดการหาผลประโยชน์อะไร ที่ศาลอุทธรณ์ให้จัดการร่วมกันนี้ ก็เป็นการช่วยกันและแสดงความบริสุทธิกันความครหาได้เป็นอย่างดี ศาลฎีกายังไม่เห็นมีเหตุอันควรเปลี่ยนคำชี้ขาดของศาลอุทธรณ์
จึงพิพากษายืน