แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า จำเลยเป็นตัวแทนจัดหางานของบริษัทจัดหางาน ส. ผู้รับอนุญาตสามารถจัดหางานให้ประชาชนคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ความจริงจำเลยไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าวและไม่สามารถจัดหางานให้ประชาชนไปทำงานในต่างประเทศได้ แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด เพียงแต่อ้างว่าเป็นตัวแทนของบริษัทจัดหางานก็เพื่อให้ได้เงินค่าบริการจากผู้เสียหายเท่านั้น จึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนางพิมวิภา ถนอมศักดิ์ ซึ่งหลบหนีได้ร่วมกันจัดหางานแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยเรียกและรับค่าบริการโดยมิได้รับอนุญาต และจำเลยกับพวกโดยทุจริตร่วมกันหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจำเลยกับพวกเป็นตัวแทนจัดหางานของบริษัทจัดหางานสยาม เอ็ม เอ จำกัดผู้รับอนุญาต สามารถจัดหางานให้ประชาชนคนหางานไปทำงานในต่างประเทศซึ่งความจริงจำเลยกับพวกไม่ได้เป็นตัวแทนจัดหางานของบริษัทจัดหางานสยาม เอ็ม เอ จำกัด และไม่สามารถจัดหางานให้ประชาชนไปทำงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้ประชาชนหลงเชื่อจึงไปสมัครงาน ทำให้จำเลยกับพวกได้ไปซึ่งเงินค่าสมัครและค่าบริการจากนายประเสริญ มีสามี เป็นเงิน 3,000 บาท นายสมคิด บุญชู และนางไพเราะ พัฒนาพรรณ เป็นเงินคนละ 4,500 บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83, 91 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30 77, 82 และให้จำเลยคืนเงินจำนวน 12,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 และพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528มาตรา 30, 77, 82 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้เรียงกระทงลงโทษ ข้อหาฉ้อโกง จำคุก 2 ปี ข้อหาผิดพระราชบัญญัติจัดหางานจำคุก 1 เดือน รวมเป็นจำคุก 2 ปี 1 เดือน ให้จำเลยคืนเงิน 3,000 บาทแก่นายประเสริฐ มีสามี ผู้เสียหาย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษฐานแสดงตนเป็นตัวแทนจัดหางานซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุก 2 ปี ให้จำเลยคืนเงินให้นายสมคิดบุญชู กับนายไพเราะ พัฒนาพรรณ ผู้เสียหายคนละ 3,500 บาทด้วยข้อหาจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาตให้ยก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยเป็นข้อแรกมีว่าจำเลยกระทำความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า จำเลยเป็นตัวแทนจัดหางานของบริษัทจัดหางานสยาม เอ็ม เอ จำกัด ผู้รับอนุญาตสามารถจัดหางานให้ประชาชนคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ความจริงจำเลยไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าวและไม่สามารถจัดหางานให้ประชาชนไปทำงานในต่างประเทศได้ แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะจัดหางานให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด เพียงแต่อ้างว่าเป็นตัวแทนของบริษัทจัดหางานก็เพื่อให้ได้เงินค่าบริการจากผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยตามฟ้องไม่เป็นความผิดฐานนี้
พิพากษายืน.