คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องที่ได้แสดงโดยแจ้งขัด ซึ่งสภาพแห่งข้อหาพร้อมด้วยคำบังคับ ทั้งได้อ้างอิงอาศัยสิทธิเป็นหลักแห่งข้อหา แม้ไม่ปรากฎวัน เดือน ปี ก็ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ในคดีแพ่ง ศาลหาจำต้องคำนึงในเวลาสั่งฟ้อง ว่าคดีจะขาดอายุความหรือไม่ ฟ้องมีใจความเพียงว่า บ.เป็นเจ้าของสวนยางซึ่งซื้อมาจาก ก.จำเลยเช่าสวนนี้กรีดยาง โจทก์ต้องการทำเอง ให้จำเลยไปอยู่ที่อื่น จำเลยไม่ยอมออก จึงขอให้ขับไล่ แม้ไม่ปรากฎ วัน เดือน ปี ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องมีใจความว่า นายบุญมีเป็นเจ้าของสวนยางแปลงหนึ่งอยู่ตำบลที่วัง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราชเดิมสวนนี้เป็นของนางเกี้ยว จำเลยเช่านางเกี้ยวกรีดยางตลอดมาแล้วนางเกี้ยวขายที่ให้นายบุญมี เมื่อนางบุญมีซื้อแล้วก็ต้องการทำเอง ให้จำเลยไปอยู่ที่อื่น แต่จำเลยไม่ยอมออกโจทก์จึงฟ้องขับไล่ ฟ้องมีใจความเพียงเท่านี้ วัน เดือน ปี ไม่ปรากฎ
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดี และตัดฟ้องว่า ฟ้องเคลือบคลุม อนึ่งข้อตัดฟ้องนี้จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยตาม ป.วิแพ่ง มาตรา ๒๔ เพื่อจะรวบรัดไม่ต้องดำเนินพิจารณาต่อไป
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องไม่เคลือบคลุม คงให้ดำเนินการพิจารณาตามปรกติ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อฟ้อง วัน เดือน ปี ไม่ปรากฎ ตามฟ้องรู้ไม่ได้ว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งไหนหากเป็นคดีนมนานมาแล้ว อาจขาดอายุความก็ได้ ฟ้องจึงเคลือบคลุม จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคำฟ้องมายื่นใหม่ภายในกำหนดอายุความ
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งซัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาพร้อมด้วยคำขอบังคับ ทั้งได้อ้างอิงอาศัยสิทธิเป็นหลักแห่งข้อหาต้องตามลักษณะของการฟ้องความแพ่งตาม ป.วิแห่ง ม.๑๗๒ วรรค ๒ ในเรื่องความแพ่งคดีขาดอายุความหรือไม่ ศาลหาจำต้องคำนึงในเวลาสั่งฟ้องไม่ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมควรรับพิจารณาได้ จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ดำเนินการคดีต่อไป

Share